พื้นไม้เป็นวัสดุสำคัญในการใช้ตกแต่งบ้านหรือคอนโด ซึ่งมีให้เลือกใช้มากมายหลายแบบ ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละไลฟ์สไตล์ มีการออกแบบให้มีความสวยงาม และการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตามลักษณะพื้นที่การใช้งาน ซึ่งพื้นไม้ก็เป็นที่นิยมอยู่มากในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความอบอุ่นและผ่อนคลายเวลาเดินอยู่ในบ้านหรือคอนโด วันนี้จะเราไปรู้จักพื้นไม้แต่ละประเภทกัน พร้อมทั้งข้อดี และข้อเสียของพื้นไม้แต่ละประเภทด้วย จะมีประเภทไหนกันบ้าง รับชมกันได้เลยครับ
“ พื้นไม้จริง ” พื้นไม้ที่มีความสวยงาม และให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย โดยส่วนใหญ่แล้วไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นไม้ปูพื้น ได้แก่ ไม้สักทอง ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้ตะแบก ไม้ตะเคียน โดยไม้ที่กล่าวมานั้นจะมีราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้เราพบเห็นคนนำมาใช้ปูพื้นน้อย แต่ก็มีไม้ที่มีราคารองลงมาอย่างเช่น ไม้เต็ง ไม้รกฟ้า ซึ่งก็ให้ความรู้สึกและผิวสัมผัสที่ไม่ต่างกัน การเลือกใช้ไม้จริงมาปูพื้นส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้
ข้อดีของไม้จริง – แข็งแรง คงทน ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น เป็นธรรมชาติ
ข้อเสียของไม้จริง – ราคาสูง วัสดุหายาก มีปัญหาเรื่องปลวก มีความยืด-หดตามสภาพอากาศ ไม่ทนความชื้น
“ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ” หนึ่งในประเภทของไม้ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ตัวพื้นไม้เอ็นจิเนียร์จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างไม้จริงกับวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ โดยใช้พื้นไม้จริงปิดทับไม้เนื้อแข็ง อัดสลับกับเสี้ยนไม้ ปิดทับด้วยยูวีอะคริลิคแลคเกอร์ในการเคลือบหน้าผิว เพื่อให้มีความสวยงามและทนทานต่อแรงขีดข่วน
ข้อดีของเอ็นจิเนียร์ – มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน ผิวสัมผัสเสมือนไม้จริง แข็งแรงคงทน ราคาตามเกรดวัสดุ
ข้อเสียของไม้เอ็นจิเนียร์ – ไม่สามารถนำกลับมาขัดหน้าแผ่นไม้ใหม่ได้
“ พื้นไม้ลามิเนต ” อีกหนึ่งพื้นไม้สังเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเพื่อทดแทนไม้จริง โดยมีพื้นผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกเสมือนไม้จริงแต่ราคาจับต้องได้มากกว่า โดยพื้นไม้ลามิเนตประกอบไปด้วย Wear Layer ผิวชั้นบนสุด ทำหน้าที่เคลือบชั้นผิวของพื้นไม้ให้มีความคงทน ป้องกันรอยขีดข่วน Pattern Layer ชั้นลวดลาย เป็นแผ่นวัสดุพิมพ์ลายเลียนแบบสีและลวดลายของไม้ชนิดต่างๆ Substrate Later ชั้นแกนหลัก เป็นวัตถุสังเคราะห์ทดแทนเนื้อไม้จริง มีเส้นใยสังเคราะห์ เศษไม้ กาว เป็นส่วนประกอบ Backing Layer ชั้นแผ่นรองพื้นเป็นชิ้นส่วนประกอบล่างสุด ทำหน้าในการป้องกันความชื้นให้กับเนื้อไม้ในการปูพื้น
ข้อดีของไม้ลามิเนต – ผิวสัมผัสเสมือนไม้จริง ราคาถูก ค่าบำรุงรักษาน้อย ทนปลวกและความชื้น
ข้อเสียของไม้ลามิเนต – หากปูพื้นได้ไม่ดีและพื้นไม้ไม่สม่ำเสมอ จะเกิดการพองตัว หรือชำรุดได้ง่ายเมื่อเจอความเปียกชื้น
“ พื้นไม้ปาร์เกต์ ” พื้นไม้จริงที่มีขนาดเล็ก เป็นไม้ที่เหลือจากการตัดไม้เป็นชิ้นมาเรียงประกอบกัน โดยผ่านการอบไสเรียบสี่หน้า การอบต้องอบด้วยอุณหภูมิมาตรฐานของพื้นไม้ เพื่อให้เกิดความทนทานต่อการยืดและหดตัว โดยไม้ที่นิยมนำมาใช้ผลิตได้แก่ ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ตะแบก ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้บีช เป็นต้น
ข้อดีของไม้ปาร์เกต์ – เลือกลวดลายได้ตามต้องการ ให้ผิวสัมผัสอบอุ่น สวยงาม
ข้อเสียของไม้ปาร์เกต์ – ไม่สามารถปูทับพื้นหินหรือพื้นกระเบื้องได้
“ พื้นไม้ไวนิลหรือพื้นไม้ยาง ” พื้นไม้สังเคราะห์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด นิยมนำมาเลือกใช้ปูกับพื้นคอนโดมิเนียม เนื่องจากสามารถปูพื้นได้ง่าย ใช้เวลาปูพื้นน้อย และมีให้เลือกหลายรูปแบบ ราคาไม่แพง โดยตัวเนื้อไม้ไวนิลจะประกอบด้วย วัสดุฟิล์มเคลือบผิวหน้า ชั้นป้องกันรอยกดทับ แผ่นพิมพ์ลวดลายไม้ แผ่นปิดหลังปัองกันความชื้น
ข้อดีของไม้ไวนิลหรือพื้นไม้ยาง – ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย มีลวดลายให้เลือกมากมาย ปูพื้นได้ง่ายและใช้เวลาน้อย ทนแรงขีดข่วนและปลวก สามารถปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้โดยไม่ต้องรื้อถอน
ข้อเสียของไม้ไวนิลหรือพื้นไม้ยาง – ผิวสัมผัสมีความแข็งกระด้างหากเดินด้วยเท้าเปล่า ไม่ทนต่อความชื้น เกิดเชื้อราได้ง่าย