Blog

เลียบด่วนรามอินทรา ทำเลขึ้นชื่อเรื่อง “ความอุดมสมบูรณ์”

หากเรานึกถึงทำเลสักทำเลหนึ่ง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมพื้นที่อย่างครบครัน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “เลียบทางด่วนรามอินทรา” โผล่ขึ้นมาในลิสต์ครับ ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาบริเวณนี้ ตลอดแนวเส้นทางจะเห็นได้ว่า มีสถานที่ต่างๆ เรียงรายอยู่ริมสองฝั่งข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ตลาดนัดกลางคืน ตลาดต้นไม้ หรือแม้แต่ร้านอาหาร คาเฟ่ ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มาก แถมยังเป็นทำเลที่เดินทางเชื่อมต่อทำเลอื่นๆ ได้อย่างสะดวกสบายด้วย เพราะติดทางด่วนฉลองรัชและจุดขึ้นลงทางด่วนครับ 

และถ้าเราเป็นคนที่ใช้ชีวิตในทำเลนี้ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยหรือทำงาน เราสามารถเลือกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยระยะยาวได้เลยครับ เนื่องจากพื้นที่ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกมากในอนาคต ซึ่งการเลือกที่อยู่อาศัยก็ต้องคำนึงถึงการใช้ชีวิต และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยด้วยครับ

โครงการที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทำเลนี้ ก็คือ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ สัมผัสความสมบูรณ์แบบของ Office Residence ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานการทำงาน และการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว ออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง แบ่งฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน พื้นที่ใช้สอยมากถึง 475 ตร.ม. ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก ทำเลทองของคนทำธุรกิจ

“ Central Festival Eastville ”

ห้างสรรพสินค้าที่รวบรวมไลฟ์สไตล์ และบริการไว้อย่างครบครัน เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ธนาคาร โรงภาพยนตร์ IT Electronic ถือเป็นหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของผู้คนทุกวัย ไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ต่างก็มักจะมารวมตัวกันที่นี่ครับ 

“ Central Festival Eastville ”

คอมมูนิตี้มอลล์ยอดฮิต ที่มีสไตล์การออกแบบโดดเด่นเฉพาะตัว ในสไตล์ Califonia Design ที่เป็นที่นิยมแพร่หลายในอเมริกาครับ โดยที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวบรวมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของย่านนี้เลย เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่เดียว ไม่ว่าจะแหล่งช้อปปิ้ง โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส หรืออื่นๆ อีกมากมาย ก็สามารถมาใช้บริการกันได้ที่นี่ครับ

“ CDC : Crystal Design Center ”

ศูนย์รวมงานดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเซีย รวบรวมผลิตภัณฑ์ด้านการตกแต่ง วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ วัสดุตกแต่งพื้นและผนัง ยังมีศูนย์ประชุม ห้องสัมมนา ศูนย์แสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ ห้องจัดเลี้ยง ตลอดจนพื้นที่สำนักงานออฟฟิศ ซีดีซีจึงถูกจัดเป็น วัน-สต๊อป ในการสรรหาและซื้อสินค้าและบริการด้านการตกแต่งที่ครบวงจรครับ หากใครต้องการแต่งบ้าน แต่งออฟฟิศหรือซ่อมแซมพื้นที่ต่างๆ ก็สามารถมาหาวัสดุ อุปกรณ์ได้จากที่นี่เลยครับ

“ The Walk เกษตรนวมินทร์ ”

ไลฟ์สไตล์มอลล์แนวคิดใหม่ Village Walking Street ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว ที่มีคอนเซ็ปต์ให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น สอดคล้องทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว ฉีกแนวด้วยการเป็นสถาปัตยกรรมแบบ แบบ Santa Monica Village ตกแต่งภายในบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบจำลอง Santa Monica Shopping พร้อมให้เราได้ไปเดินเล่น ช้อปปิ้งอย่างแบบสบายใจ โดยภายในมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ สถาบันติวเตอร์ ไอทีสโตร์ ร้านเสริมความงามและสุขภาพ Market Walk สถาบันการเงิน ร้านหนังสือ ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า Index Living Mall เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รวมทุกสิ่งอย่างไว้ได้ครบครัน

“ ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา ”

ตลาดนัดกลางคืนยอดฮิตประจำทำเลนี้ก็ต้องเป็นที่ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ที่นี่มีของขายมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ต้นไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กๆ ฯลฯ และยังมีโซนที่เป็นของกินที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายอย่างเลยครับ เป็นอีกหนึ่งที่ที่ผู้คนมาเดินจับจ่ายใช้สอย หรือหาของกินกับครอบครัว หรือมากับกลุ่มเพื่อนครับ

“ ตลาดหัวมุม ”

อีกหนึ่งตลาดที่ให้บรรยากาศคล้ายๆ กันก็เป็นตลาดหัวมุมครับ ที่นี่ก็มีของขายเยอะไม่แพ้ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราเลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับต่างๆ ก็มีให้เลือกกันแบบไม่ซ้ำจำเจ อีกทั้งยังมีร้านอาหารต่างๆ ให้ได้เลือกทานแบบไม่ซ้ำเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ของทอดต่างๆ หรือเดินเยอะๆ คอแห้งหิวน้ำ ก็มีร้านน้ำ ร้านนมต่างๆ รายล้อมอยู่รอบพื้นที่ตลาดเลย

“ Biz Galleria นวลจันทร์ เกษตรนวมินทร์ ”

Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ พร้อมให้สัมผัสความสมบูรณ์แบบของ Office Residence สไตล์ Modern Luxury ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานการทำงาน และการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว โดยออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง มีฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน บนพื้นที่ใช้สอยสูงสุดกว่า 475 ตร.ม. บนทำเลติดถนนใหญ่ สะดวกแก่การเดินทางเพื่อมาติดต่อธุรกิจ และมีที่จอดรถไว้รองรับถึง 6 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV และสวนส่วนกลาง

  • Type A

 พื้นที่ใช้สอย 475 ตารางเมตร หน้ากว้าง 8 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา 

  • Type B

พื้นที่ใช้สอย 370 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 40 ตารางวา

? ใกล้ทางด่วนพิเศษฉลองรัชฯ 5 นาที 

?ใกล้ถนนเอกมัย 15 นาที 

?ใกล้ Central Festival East ville 10 นาที 

หากสนใจสามารถ ลงทะเบียนขอรับข้อมูลได้ที่ https://bit.ly/3gzU8vS 

? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-946-1556 

แผนที่ https://goo.gl/maps/ywUMb8Zwc542 

“Modern Classic” สไตล์การตกแต่งบ้านที่สะท้อนตัวตนอย่างมีระดับ

หนึ่งในสไตล์บ้านที่ถูกหยิบขึ้นมาสรรค์สร้างเป็นที่อยู่อาศัยมากที่สุดในยุคนี้ ก็ต้องมีชื่อของ Modern Classic ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงครับ โดยจุดแข็งของการแต่งบ้านสไตล์นี้ก็คงเป็นการนำความคลาสสิค ของศิลปะหรือสถาปัตยกรรมที่มีอยู่จริงจากสถานที่ต่างๆ มาผสมผสานเข้ากับความเรียบหรู ทำให้บ้านถูกออกแบบมาโมเดิร์นและก็ล้ำยุคอย่างลงตัว ตัดทอนลวดลายต่างๆ ปรับรูปร่างให้ดูเรียบง่ายขึ้น ตามแบบฉบับของการตกแต่งแบบ Modern Classic

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เกิดการสร้างบ้านหรือตกแต่งในสไตล์ Modern Classic นั่นก็คือ “แรงบันดาลใจ” โดยที่อยู่อาศัยสไตล์ Modern Classic นั้น มักจะนำแรงบันดาลใจจากงานศิลปะ หรือสถาปัตยกรรมที่มีอยู่จริงในยุโรป ที่ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ โดยตัดลวดลายที่ดูยุ่งเหยิงออก ผสานเข้ากับความเรียบง่ายของศิลปะสมัยใหม่ ทำให้เกิดเป็นความร่วมสมัยที่ไม่ตกยุค เรียบหรู ดูดี ผ่านความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ออกมาเป็นแบบบ้านสไตล์ Modern Classic ที่ทั้งสวยสง่าและสมบูรณ์แบบ

การตกแต่งที่อยู่อาศัยในสไตล์ Modern Classic ถือเป็นหนึ่งในการถ่ายทอดความงามร่วมสมัยที่ดูไม่ตกยุค พร้อมทั้งบ่งบอกตัวตนและรสนิยมที่เหนือระดับของผู้อยู่อาศัยในทุกองค์ประกอบการตกแต่งครับ โดยเป็นการนำความคลาสสิคของสถาปัตยกรรมยุโรป มาผสมผสานกับความเรียบหรู และไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันอย่างลงตัว โดยการตกแต่งสไตล์นี้จะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก เนื่องจากเป็นการตัดสิ่งที่ทำให้ดูยุ่งเหยิงออกไปจากการออกแบบ คงไว้ด้วยความเรียบง่ายแต่ดูสวยงามและเป็นระเบียบ จากเส้นสายที่ต่อเนื่องกัน เพื่อคงความงามแบบคลาสสิคไว้ในการออกแบบ และช่วยยกระดับภาพลักษณ์ให้บ้านดูสวยสง่าและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นครับ

ในการตกแต่งบ้านสไตล์ Modern Classic นั้น นอกจากเพิ่มความสวยงามและความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับบ้านแล้ว ยังทำให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านนั้นดูหรูหรามากขึ้นด้วยครับ เป็นหนึ่งในการตกแต่งที่สามารถยกระดับภาพลักษณ์ของบ้านให้ดูดีขึ้นได้มากเลยทีเดียว

.

เทรนด์การแต่งบ้านในปัจจุบันนี้มีความหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ โดยมาจากอิทธิพลที่รับมาจากฝั่งตะวันตก อย่างเช่น สถาปัตยกรรม ศิลปะ การใช้ชีวิต การแต่งบ้านสไตล์ “Modern Classic” เป็นหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะด้วยความมีเสน่ห์ในตัว มีความงามของความคลาสสิก แต่ยังคงให้กลิ่นความโมเดิร์นตามยุคสมัยอย่างพอดี ทำให้หลายๆ คนถูกใจการแต่งบ้านสไตล์ Modern Classic ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะทำให้บ้านเรียบหรูแล้ว ยังกำเนิดเป็นลักษณะเด่นด้วยการตกแต่งบางสิ่งที่มีอย่างน่าพอใจ ทำให้การตกแต่งสไตล์ Modern Classic นั้นเป็นการตกแต่งที่ร่วมยุคที่ลงตัวกับยุคสมัยได้อย่างสิ้นเชิงครับ

“แอสทิน เอสเตท” รีแบรนด์ปรับภาพลักษณ์ยูนิฟอร์มใหม่

บริษัท แอสทิน เอสเตท จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่มุ่งเน้นรายละเอียดการดีไซน์ พร้อมกับนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับชีวิตเมือง ปรับภาพลักษณ์ยูนิฟอร์มพนักงานฝ่ายขายทุกโครงการ เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยและคงความคลาสสิค เรียบหรู ภายใต้การรีแบรนด์องค์กรครั้งยิ่งใหญ่ในปี 2564  ทั้งนี้ ชุดยูนิฟอร์มใหม่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังของเมืองไทย ซึ่งพัฒนาแนวคิดและมีแรงบันดาลใจจากอัตลักษณ์ หรือ Brand Identity ของแอสติน เอสเตท ที่เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพท์ที่มุ่งเน้นไปที่ความทันสมัย แต่ยังคงความคลาสสิคและเรียบหรูไว้ บ่งบอกถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี

นายพรชัย กฤษฎาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสทิน เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ดีไซน์ของชุดยูนิฟอร์มใหม่ถูกออกแบบ ภายใต้แนวคิด ‘Timeless Elegance and Stylish’ โดยเริ่มตั้งแต่การใช้โทนสีซิกเนเจอร์ของบริษัท คือ ไลท์แซนด์และดาร์กโอ๊ค ซึ่งนอกจากจะเป็นสีที่บ่งบอกถึงความเรียบหรูแล้ว ยังให้ความรู้สึกดูดีในทุกช่วงเวลาอีกด้วย ส่วนดีไซน์ของชุดจะเน้นไปที่การส่งเสริมบุคลิกภาพของพนักงานที่มีความทันสมัย ความเรียบ แต่หรูและดูดี โดยตัวเสื้อจะเลือกใช้ผ้าที่มีความเงา นุ่มลื่น ทำให้ภาพลักษณ์ออกมามีความเรียบหรู บวกกับการตกแต่งจีบที่เสื้อเพื่อเพิ่มรายละเอียดความสวยงามและมีสไตล์ ขณะที่ทรงแขนสามส่วนจะให้ความคล่องตัวสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ส่วนตัวเสื้อ ถูกออกแบบมาให้สามารถใส่ได้ทั้งกับกางเกงและกระโปรงที่ออกแบบมาคู่กัน โดยกระโปรงจะเน้นไปที่ ความสง่างาม (Elegance) และ มีสไตล์ (Stylish) เป็นทรงสอบผ่าหลัง แต่งด้วยกระดุมทองให้เข้ากันดีกับตัวเสื้อ ด้านกางเกงจะเป็นทรง 5 ส่วน ให้ความกระฉับกระเฉงว่องไวและทำงานได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ภายหลังการประกาศการรีแบรนด์องค์กรใหม่เป็น “แอสทิน เอสเตท” ซึ่งเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปีนี้ บริษัทฯ จึงเปลี่ยนยูนิฟอร์มพนักงานฝ่ายขายเพื่อช่วยสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กรที่มุ่งสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของคนเมือง โดยพนักงานฝ่ายขายโครงการใหม่ เวอริทซ์ (Veritz) สาธุประดิษฐ์ 34 ลักชัวรี่ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกับการรีแบรนด์องค์กร จะเริ่มใช้ยูนิฟอร์มใหม่เป็นโครงการแรกในเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

ส่องทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม3”

หนึ่งในทำเลที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพ มีความเงียบสงบและอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับโซน CBD ของกรุงเทพมหานคร ก็คงหนีไม่พ้นทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม 3” แล้วอะไรที่ทำให้ทำเลนี้น่าสนใจ เหมาะกับการเป็นที่อยู่อาศัยระยะยาว ก็คงเป็นเพราะพื้นที่นี้เชื่อมต่อกับโซนธุรกิจ มีการเดินทางที่สะดวกสบาย การจราจรไม่แออัดมากนัก อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย หากลองเทียบกับพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในอื่นๆ แล้ว ทำเลนี้เป็นทำเลที่สามารถสลัดภาพความวุ่นวายของเมืองออกไปได้มากเลยครับ ส่วนในเรื่องของการเติบโต ต้องบอกว่าทำเลนี้มีการเจริญเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มีที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอด เช่น คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันโอบล้อมพื้นที่อยู่ ทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ รถไฟฟ้า BRT จุดขึ้นลงทางด่วน ทำให้ราคาที่ดินในทำเลสาธุประดิษฐ์-พระราม 3 นี้ เติบโตสูงขึ้นด้วยครับ

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกที่โอบล้อมทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม3” มีกระจายตัวอยู่อย่างมากมาย แต่สถานที่ที่คนจะไปใช้งานบ่อยๆ ก็คงหนีไม้พ้นห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ ทั้งสองถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมสินค้าและบริการต่างๆ ไว้ด้วยกัน เช่น ร้านอาหาร โรงภาพยนต์ ธนาคาร ฟิตเนส และอีกมากมาย ทำให้ผู้คนหมุนเวียนกันเข้า-ออกตลอดทั้งวัน ซึ่งในทำเลนี้ก็มีสถานที่เด่นๆ อยู่มากมายเลยครับ เช่น เซ็นทรัลพระราม 3 เดอะอัพ เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เทอร์มินอล 21 พระราม 3
และอีกสถานที่สำคัญที่ช่วงนี้จะห่างไปไม่ได้เลยก็คือโรงพยาบาลครับ หากป่วยหรือมีอุบัติเหตุฉุกเฉิน ในทำเลนี้ก็มีโรงพยาบาลคอยรองรับหลากหลายที่เลยครับ แถมยังเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงด้วย อย่างเช่น โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

อีกหนึ่งปัจจัยการใช้ชีวิตก็คงเป็นเรื่องของการศึกษา สถานศึกษาจึงถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในการใช้ชีวิต ตั้งแต่วัยเด็กจนเติบโตเป็นวัยรุ่นเลยครับ ซึ่งในย่านสาธุประดิษฐ์-พระราม 3 ก็มีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงอยู่มากมายหลายที่เลย โดยมีรองรับตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถม มัธยมศึกษา จนถึงระดับมหาวิทยาลัยเลยครับ หากมีที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ เด็กๆ ก็ไม่ต้องเดินทางไปไกลบ้านด้วย เพิ่มคามสะดวกสบายให้พ่อแม่ ผู้ปกครองขึ้นอีกเยอะเลย ส่วนสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ก็จะมี โรงเรียน โรงเรียนพระแม่มารีสาธุประดิษฐ์ โรงเรียนสารสาสน์พิทยา โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา คิงส์คอลเลจ นิวสาทรอินเตอร์เนชั่นแนลสคูล นานาชาติโชรส์เบอรี โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เซนโยเซฟคอนแวนต์

ส่วนในเรื่องการเดินทางต้องบอกเลยว่าทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม 3” มีการจราจรที่ค่อนข้างคล่องตัวมาก สามารถเดินทางเข้าออกโซน CBD อย่างสีลม สาทร ได้อย่างง่ายดาย และยังมีบริการสาธารณะอย่าง BTS สายสีลม และ BRT วิ่งรอบทำเลนี้อยู่ครับ ส่วนการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ นั้น ก็สามารถเดินทางได้สะดวกเพราะมีทางด่วนเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ อย่าง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช วงแหวนอุตสาหกรรม ทั้งหมดนี้ ถือว่าทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม 3” นั้น เป็นทำเลที่เหมาะมากๆ ครับ กับการเลือกที่จะอยู่อาศัยในระยะยาว เพราะในอนาคตคิดว่าทำเลนี้นั้นจะเติบโตไปได้อีกมากเลยครับ

VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34 เผยอัตลักษณ์แห่งการใช้ชีวิตที่เหนือกว่า ผ่านทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัยที่โดดเด่น ที่สุดอุดมคติแห่งการพักผ่อนอันเงียบสงบ ใจกลางพระราม 3 สู่บ้านหรูสไตล์ Classical Modernity เอกสิทธิ์เพียง 32 ครอบครัวเริ่ม 20.9 – 26 ล้าน*

หากใครกำลังมองหาบ้านทาวน์โฮม ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทำเลสาธุประดิษฐ์ – พระราม 3 สามารถสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่

“ภัทรา เอสเตท” รีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่สู่ “แอสทิน เอสเตท”

New Normal… New Brand.. ค่ายอสังหาฯ “ภัทรา เอสเตท” 
ปรับตัวครั้งใหญ่เตรียมรีแบรนด์ดิ้งเป็น “แอสทิน เอสเตท” 

New Normal… New Brand.. ค่ายอสังหาฯ “ภัทรา เอสเตท” ปรับตัวครั้งใหญ่เตรียมรีแบรนด์ดิ้งเป็น “แอสทิน เอสเตท” สร้างจุดแข็งเสริมความแข็งแกร่งยุคโควิด.. โดยแม่ทัพ “พรชัย กฤษฏาวรกุล” ซีอีโอคนรุ่นใหม่ทายาทรุ่นที่ 2 ทุ่มเททำงานหนัก นำทัพรีแบรนด์ดิ้ง “ภัทรา เอสเตท” บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครองใจผู้บริโภคมายาวนานกว่า 40 ปี ให้ผงาดในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม ดีไซน์ อสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี พร้อมยกเครื่องใหม่ทั้งองค์กร ให้สมาร์ท เท่ห์ เรียบหรู ดูดี ทำสินค้าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทำเลเมือง ลูกค้าอดใจรอวันเปิดตัวโฉมใหม่ “ภัทรา เอสเตท” ที่จะเปลี่ยนเป็น “แอสทิน เอสเตท” ได้ ในเร็ว ๆ นี้

สินเชื่อบ้านใหม่ ปี 2564

สำหรับคนที่ทำการกู้ซื้อบ้านผ่านธนาคาร อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน คือ ตัวกำหนดการผ่อนชำระค่างวดของการซื้อบ้าน วันนี้ เดอะ พณา รวบรวมข้อมูลเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการพิจารณาเลือกสินเชื่อ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน โดยภาพรวมในเดือน เมษายน 2564 ธนาคารส่วนใหญ่มีอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อบ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกคงที่จากเดือน มีนาคม ปี 2564 มีเพียงสถาบันทางการเงินบางแห่งที่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยของผลิตภัณฑ์สินเชื่อกู้ซื้อบ้าน

หมายเหต :
*อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำสุดของธนาคาร กรณีลูกค้าทั่วไปและไม่ทำประกันชีวิต
**อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน เฉลี่ย 3 ปีแรก คำนวณแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น
.
ที่มา: เว็บไซต์ธนาคาร/Home Buyers รวบรวม (ข้อมูล ณ มกราคม 2564 และเว็ปไซต์ www.ddproperty.com ข้อมูล ณ เมษายน 2564)
เพิ่มเติม คลิ๊ก >> https://bit.ly/3abVcm4
.
THE PANA เพชรเกษม-สาย3 ให้ส่วนลดสูงสุด 1,000,000 บาท* กับบ้านเดี่ยวเนื้อที่กว่า 100 ตร.ว. พร้อมอยู่ 2 หลังสุดท้าย โซนหน้าสวน | เริ่ม 8.7 – 9 ล้าน*
ลงทะเบียนขอข้อมูลเพิ่มเติม คลิก ➤ http://bit.ly/2OLjU1b
ชมรีวิว คลิก ➤ https://bit.ly/2Ij0JfH
LINE ID : @thepana หรือ https://lin.ee/1DsTZlSrZ
?ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอนฯ*
?ฟรี! ปั๊มน้ำ + ถังเก็บน้ำ
?ฟรี! จัดสวนตามมาตราฐาน
—————————————————————–
สอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม เยี่ยมชมโครงการได้ทุกวัน เวลา 09:00-18:00 น.
?โทร.: 061-570-1777
?แผนที่: https://goo.gl/maps/37WLCff6DZo
—-
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

การเตรียมตัวก่อนรับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19

หลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในระลอกที่ 3 นี้ ได้มีการเร่งฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และลดความรุนแรงจากอาการป่วยของเชื้อโควิด 19 แต่ด้วยกระแสข่าวเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนที่ออกมาอาจจะสร้างความกังวลให้เราอยู่ไม่น้อย เราควรทำอย่างไรบ้าง?
ต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร? บทความนี้ มีเฉลยค่ะ


ข้อแนะนําการเตรียมตัวก่อนรับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19
1) สองวันก่อนและหลังการฉีดวัคซีนให้งดออกกำลังกายหนัก หรือยกน้ำหนัก และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
2) วันที่ฉีดควรดื่มนำ้อย่างน้อย 500-1,000 ซีซี และงดชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมถึง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังฉีดวัคซีน
3) หากรับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ ก็ให้รับประทานได้ตามปกติ แต่เมื่อฉีดยาแล้วให้กดตรงตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก 1 นาที
4) การฉีดวัคซีนโควิดควรห่างกับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 1 เดือน หรือฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มก่อน แล้วเว้นระยะ 1 เดือน จึงเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ต่อไป
5) ฉีดแขนข้างที่ไม่ค่อยถนัด และหลังฉีดสองวันงดใช้แขนข้างนั้น อย่าเกร็งยกของหนัก
6) หลังฉีดแล้วเจ้าหน้าที่จะให้รอดูอาการในบริเวณที่ฉีด 30 นาที
7) ถ้ามีไข้ หรือปวดเมื่อยมากทนไม่ไหว สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม
ครั้งละหนึ่งเม็ด ซ้ำได้ถ้าจำเป็น แต่ให้ห่าง 6 ชั่วโมง ห้ามรับประทานยาพวก Brufen, Arcoxia,
Celebrex เด็ดขาด

แจ้งแพทย์ก่อนฉีด
-โรคประจําตัว
-ประวัติการแพ้ยา หรือวัคซีน
-การตั้งครรภ์

สิ่งสําคัญ เพิ่มเติม
-ก่อนออกจากบ้านอย่าลืม
-บัตรประชาชน วันเวลานัดการฉีดวัคซีน
-รักษามาตรการป้องกัน พื้นฐานอย่างเคร่งครัด คือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
-สวมใส่เสื้อแขนสั้นหรือเปิดบริเวณต้นแขนแขนได้ง่าย

ที่มา กรมอนามัย

5 ข้อดี บ้านทิศตะวันตก

สำหรับคนไทยการเลือกทิศทางของบ้านนั้นสำคัญ โดยส่วนใหญ่นิยมเลือกบ้านที่หันหน้าทางทิศเหนือ ทิศตะวันออกและทิศใต้ ส่วนทิศตะวันตกมักเป็นทิศที่ไม่ได้รับความนิยม  เหตุผลที่ผู้คนไม่เลือกบ้านหันหน้าทิศตะวันตก เนื่องด้วยแสงแดดทางทิศตะวันตกนั้นให้ความร้อนในช่วงบ่าย แต่บ้านที่หันหน้าทางทิศตะวันตกนั้นมีข้อดีอีกหลายด้าน วันนี้เดอะ พณา รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้แล้ว ซึ่งจะมีอะไรบ้างลองมาดูกันเลยค่ะ

1. บ้านทิศตะวันตก หรือตกเฉียงใต้ ลมดีกว่าบ้านทิศใต้

เป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่เกี่ยวกับความรู้เรื่องกระแสลมในประเทศไทย คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ลมฤดูกาลมาจากทางทิศใต้ในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ส่วนฤดูหนาวมาจากทางทิศเหนือ แต่จากที่ทางปันแปลนได้สำรวจสถิติกระแสลมธรรมชาติตลอดทั้งปี โดยอิงข้อมูลจากกรมอุติฯ และระบบดาวเทียมต่าง ๆ กลับพบว่า..ค่าเฉลี่ยของลมธรรมชาติในประเทศไทยมาจากทางทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ ส่วนฤดูหนาวมาจากทิศตะวันออก,ออกเฉียงเหนือ และทิศเหนือตามลำดับ

แต่อาจด้วยลักษณะภูมิประเทศของไทย หรือ การจดจำให้เรียกง่าย จึงสอนตาม ๆ กันมาว่า ทิศใต้และทิศเหนือ เป็นทิศของลม ในความเป็นจริงแล้วสัดส่วนของลมจะมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่า เช่น ช่วงฤดูหนาวจะทราบดีว่า ลมหนาวของไทยเข้ามาทางภาคอีสานตอนบนก่อนภาคเหนือ ซึ่งหากเทียบจากทิศแล้ว คือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของไทย ส่วนลมใต้อัตราส่วนเฉลี่ย มาจากฝั่งทะเลอันดามันมากกว่าฝั่งอ่าวไทย หรือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไทยนั่นเอง


2.  บ้านหันหน้าทิศตะวันตก ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น

แม้ทิศตะวันตกจะเป็นทิศที่ได้รับลมดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีแสงแดดที่แรงกว่าทิศอื่น ๆ อย่างไรก็ตามแสงแดด มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีของแสงแดดช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดความอับชื้นภายในบ้านซึ่งเป็นต้นเหตุของแบคทีเรียต่าง ๆ จะสังเกตได้เลยว่า บ้านที่หันหน้าทางทิศเหนือหากไม่ได้รับการดูแลที่ดี หรือไม่ได้ออกแบบให้เปิดรับแสง มักเป็นบ้านที่มีกลิ่นอับชื้น ยิ่งหากใช้เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำภายในตัวยิ่งต้องระมัดระวัง เพราะความอับชื้นเป็นต้นเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้ เราจึงเห็นผู้คนในประเทศไทยป่วยเป็นโรคภูมิแพ้กันมาก หนึ่งในต้นเหตุหลัก ๆ คือ กลัวบ้านจะได้รับแดด

ส่วนข้อเสียของแดดคือการนำพาความร้อนมาด้วย แนะนำให้ออกแบบด้วยการกรองแสงให้กับห้องเพื่อลดทอนความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน อาทิ เลือกใช้วัสดุระแนง บล็อกช่องลม ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา เพียงเท่านี้ก็จะได้ห้องนอนที่สะอาด โปร่งสบาย ปราศจากเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ในขณะเดียวกันสามารถรับลมธรรมชาติได้ดีกว่าทิศอื่น ๆ

3. บ้านทิศตะวันตกหน้าบ้านได้ร่มเงาในยามเช้า

บ้านทิศตะวันตกนั้นดีมากในยามเช้า เพราะสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าได้อย่างยาวนาน นั่งจิบกาแฟในสวน ตกแต่งพันธุ์ไม้ในสวนหน้าบ้าน เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่เร่งรีบ จะยิ่งเหมาะมากสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องอยู่บ้านตลอดทั้งวัน หรือบ้านสำหรับวัยเกษียณ เพราะหากบ้านหันหน้าทางทิศตะวันออก พระอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออกทำให้หน้าบ้านร้อนตั้งแต่เช้า ไม่สามารถนั่งเล่นได้เลย

4. บ้านหันหน้าทิศตะวันตก เหมาะกับบ้านสมัยใหม่

บ้านในยุคปัจจุบันผู้อยู่อาศัยต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ต้องการพื้นที่พักผ่อนที่ปราศจากการมองเห็นจากบุคคลภายนอก หน้าบ้านจึงออกแบบในลักษณะปิดซ่อน พรางตา กว่า 90% หน้าบ้านยุคปัจจุบันจึงกลายเป็นโรงจอดรถยนต์ และนิยมออกแบบบ้านให้มีห้องพักผ่อนอยู่บริเวณหลังบ้าน และเว้นพื้นที่สวนไว้หลังบ้านทดแทนพื้นที่หน้าบ้าน หลังบ้านจึงได้พักผ่อนในทิศเหนือ ทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกให้เป็นพื้นที่จอดรถ ทางเดิน หรือต้นไม้ใหญ่ปกปิดความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย


5.   บ้านทิศตะวันตก เป็นทิศธาตุทอง

คนส่วนใหญ่มักเชื่อว่า ทิศตะวันตกไม่เป็นมิตรกับฮวงจุ้ย แต่จากข้อมูลทางศาสตร์ฮวงจุ้ยกล่าวไว้ว่า ทิศตะวันตกเป็นทิศธาตุทอง นอกจากจะไม่ผิดฮวงจุ้ยแล้ว ยังดีต่อเจ้าของบ้านที่มีธาตุประจำตัวเป็นธาตุทอง ธาตุน้ำ และธาตุไม้ ทั้งยังดีต่อการทำธุรกิจ เนื่องด้วยทิศตะวันตกจะได้รับแสงสว่างมากในยามบ่าย ส่งผลให้หน้าร้านสว่าง ไม่มืด ซึ่งความสว่างมีผลดีต่อฮวงจุ้ย เป็นเสมือนแสงสว่างที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว ผู้คนมองเห็นได้อย่างเด่นชัด

—————————————————————–

THE PANA เพชรเกษม-สาย3 บ้านเดี่ยวบนทำเลกรุงเทพฝั่งตะวันตก พร้อมรองรับความสุขทุกรูปแบบ ครบทุกฟังก์ชั่น เพื่อการใช้ชีวิตที่ลงตัว บนทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อทุกการเดินทาง
สอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม
?โทร.: 061-570-1777
?LINE ID : @thepana หรือ https://lin.ee/1DsTZlSrZ
?แผนที่: https://goo.gl/maps/37WLCff6DZo
—-
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

10 เคล็ดไม่ลับ ทำงานที่บ้านอย่างไรให้ได้งาน

ช่วงนี้คงไม่มีประเด็นอะไรน่าสนใจไปกว่า COVID-19 เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงเกิดการกักตัวอยู่บ้าน Work From Home เพื่อลดความเสี่ยง วันนี้เราเลยมี 10 เคล็ดไม่ลับ สำหรับการทำงานอยู่บ้านมาฝากกันค่ะ

1. กำหนดเวลาทำงาน

เทคนิคการบริหารเวลา

แม้ว่าการทำงานที่บ้านจะมีข้อดีมากมาย แต่หลายครั้งก็กินเวลาชีวิตอย่างไม่รู้ตัว เช่น ทำให้บางคนเริ่มงานเร็วกว่าปกติ ทำให้บางคนทำเพลินจนลืมเวลาพัก และทำให้บางคนติดพันจนเลิกช้ากว่าเดิม จึงส่งผลให้การใช้ชีวิตเริ่มไม่สมดุล ฉะนั้นเคล็ดลับแรกของการทำงานที่บ้าน คือ การกำหนดตารางเวลาทำงานและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด (ยกเว้นกรณีงานด่วน) อาจจะตั้งเวลาแจ้งเตือนไว้ เพื่อช่วยให้ชีวิตมีแบบแผนมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทำงานที่บ้านมีสิ่งล่อลวงเยอะ ทำให้เสียสมาธิได้ง่าย Alan Hedge จึงให้คำแนะนำว่า ในช่วงแรก ๆ ให้ทำตามกฎ 20-20-20 คือ ทำงาน 20 นาที พักเบรก 20 วินาที โดยในช่วงพักเบรกให้มองไกลออกไปจากงาน 20 ฟุต เพื่อช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ เนื่องจากคนเรามักจะหลุดโฟกัสหรือมีความมุ่งมั่นน้อยลงภายใน 20 นาทีนั่นเอง

2. ตั้งกฎกับคนในครอบครัว

AskMeWhats - Top Beauty Blogger Philippines - Skincare Makeup ...

ถ้าหากในบ้านมีสมาชิกอยู่ด้วยกันหลายคน เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือเพื่อน ให้บอกกล่าวกับทุกคนให้ชัดเจนว่า เราว่างตอนไหน อะไรที่ทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อช่วยให้เข้าใจตรงกันและไม่ส่งผลกระทบต่องาน เนื่องจากบางครั้งคนที่อยู่ด้วยอาจจะคาดหวังให้เราคุยเล่นหรือทำงานบ้านบ้าง ซึ่งความจริงแล้วก็พอช่วยได้บ้างเล็กน้อย แต่ต้องไม่ทำประจำ จนทำให้เวลาและประสิทธิภาพในการทำงานแย่ลง ส่วนบ้านที่มีเด็กวัยเรียนที่พอจะรู้เรื่องรู้ราวอยู่บ้าง ให้บอกขอบเขต เวลาว่าง และเวลาเลิกงานกับพวกเขาอย่างชัดเจน อาจจะเป็นการล็อกประตูห้องไว้ก่อน ติดป้ายบอกว่ากำลังทำงานอยู่ หรือกำหนดเวลาว่าสามารถเข้ามาได้ตอนไหนก็ได้

3. แบ่งเวลาพัก

เพราะการทำงานที่บ้านไม่มีเพื่อนชวนกินข้าวยามพักกลางวัน หรือชวนพักเบรกจากความเหนื่อยล้าระหว่างวัน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของตัวเราเองที่ต้องรู้นโยบายของบริษัทว่าให้พักได้ในเวลาไหน มีพักเบรกย่อยบ้างหรือเปล่า จากนั้นก็นำมาปฏิบัติตามในช่วงที่ทำงานที่บ้านอย่างเหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหลายบริษัทมักจะให้พักกลางวันในช่วงเที่ยง และมีพักเบรกย่อยในช่วงบ่าย อ้อ แล้วในขณะพักก็พยายามใช้เวลาให้คุ้มค่า ไม่จำเป็นต้องกลับมาทำงานเร็วกว่ากำหนด ถ้าเพื่อความสะดวกสบายและแบ่งเวลาได้อย่างเหมาะสม จะตั้งเวลาหรือนาฬิกาไว้เลยก็ได้

4. จัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม

การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมกับการนั่งทำงาน ถือเป็นสิ่งสำคัญของการทำงานที่บ้าน เพราะบางห้องอาจทำให้รู้สึกเอื่อย เหนื่อยล้า และไม่มีแรงบันดาลใจได้ ฉะนั้นผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงแนะนำให้นั่งทำงานในห้องที่ให้พลังงานมากที่สุด ซึ่งปกติแล้วจะเป็นห้องที่วิวดีและมีแสงธรรมชาติมาก อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งเคล็ดลับบอกว่า ควรเลือกห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอและติดตั้งไฟในตำแหน่งที่เหมาะสม เมื่อเลือกพื้นที่ที่เหมาะกับการนั่งทำงานได้แล้ว ต่อไปก็ต้องเคลียร์ข้าวของ ทำความสะอาด และจัดระเบียบให้เรียบร้อย เนื่องจากการนั่งทำงานในบริเวณที่รกและสกปรก สามารถทำให้ความคิดยุ่งเหยิงและเสียสมาธิได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าต้องจัดเตรียมพื้นที่ให้เป๊ะทุกองศา เพราะความจริงแล้วแค่เก็บเอกสารไว้ในกล่อง เก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง เลือกสิ่งของที่วางบนโต๊ะอย่างเหมาะสม แยกข้าวของที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป พร้อมทั้งหาอะไรที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ เช่น ผลงานศิลปะหรือต้นไม้ มาวางไว้ ก็ช่วยเพิ่มความสดใสและชีวิตชีวา ทำให้น่านั่งทำงานไม่เบาแล้ว

5. หลีกเลี่ยงการทำงานบนโซฟาหรือเตียงนอน

ทุกวันนี้ Wi-Fi ช่วยให้เราทำงานได้ทุกที่ แม้กระทั่งโซฟาและเตียงนอน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราสามารถทำงานได้ทุกที่จริง ๆ เพราะ Julie Morgenstern ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจัดระเบียบและผู้เขียนหนังสือ Organizing from the Inside Out อธิบายว่า เราต้องแยกระหว่างพื้นที่ทำงานและพื้นที่พักผ่อนออกจากกัน เพื่อช่วยให้มีขอบเขตในการใช้ชีวิต ซึ่งถ้าหากใครไม่มีโต๊ะทำงานก็สามารถใช้เป็นโต๊ะอาหารหรือโต๊ะญี่ปุ่นแทนได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องระวังเรื่องปัญหาปวดหลัง ปวดคอ และต้องเคลียร์เอกสารและอุปกรณ์หลังเลิกงานเสมอ เพื่อไม่ให้เวลางานมาปะปนกับเวลาส่วนตัวนั่นเอง

6. แสดงตัวและติดต่อสื่อสารอยู่เสมอ

อีเมล

หนึ่งสิ่งที่คนทำงานที่บ้านต้องทำ คือ การติดต่อสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา คอยบอกตารางงาน รายงานสถานะงาน เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าทำงานอยู่ ไม่ได้หายไปไหน ซึ่งถึงแม้จะฟังดูวุ่นวายไปหน่อย แต่ก็ช่วยให้หัวหน้าสบายใจได้ อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าต้องพูดคุยหรือรายงานทุก 5 นาที เขียนอธิบายทุกการเคลื่อนไหว ทว่าเป็นการทบทวนตัวเองให้คนอื่นทราบ และเป็นการติดต่อสื่อสารกันอยู่เรื่อย ๆ ก็เท่านั้น

นอกเหนือจากนี้ การวิดีโอคอลก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่คนที่ทำงานที่บ้านต้องทำบ่อย ๆ ทว่าแทนที่จะเข้าร่วมและทำตัวเงียบ ๆ อย่าลืมพูดคุย ทักทาย และเสนอแนะ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเรารับฟังอยู่ หรือที่ง่ายที่สุด แค่กล่าวสวัสดีตอนเริ่มและบอกลาตอนจบก็ยังได้

7. เตรียมข้อมูลและอุปกรณ์ให้พร้อม

อย่าลืมว่าการทำงานที่บ้านจะเรียกไอทีมาช่วยเหลือไม่ได้ ฉะนั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่พนักงานทุกคนต้องเตรียมไฟล์ข้อมูลไว้ให้พร้อม บุ๊กมาร์กหน้าสำคัญไว้ให้ครบ พร้อมทั้งเก็บเบอร์ติดต่อไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วย ส่วนสำหรับอุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ก็ต้องวางเตรียมไว้ที่โต๊ะอย่าให้ขาด ทั้งสายชาร์จ หูฟัง สมุด ปากกา กระดาษ เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่า จะไม่ต้องวุ่นวายตามหาทุกครั้งที่ต้องการใช้งานนั่นเอง

8. ทำให้เป็นมืออาชีพ

รู้จักกับ Data Journalism วิธีเสนอข่าวแบบใหม่ด้วยข้อมูล

เมื่อมีโอกาสทำงานที่บ้าน เราควรทำตัวให้เป็นมืออาชีพ เพราะว่าการทำงานที่บ้านไม่ได้หมายความว่าสามารถทำงานบ้านหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ ทว่าก็แน่นอนว่าเราไม่ควรจะติดอยู่กับงานยาวนานตลอด 8 ชั่วโมง ดังนั้นอาจจะแวบไปทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งวันจนส่งผลกระทบต่อการทำงาน โดยมีเคล็ดลับที่น่าสนใจอยู่ว่า ให้เรากำหนดตารางเวลาที่เหมาะสม แล้วแบ่งเวลาช่วงพักเบรกสัก 5 นาที ไปจัดการงานบ้านง่าย ๆ เช่น นำผ้าที่จะซักใส่ถังหรือกรอกน้ำเตรียมไว้ดื่ม จากนั้นก็กลับมาทำงานต่อเหมือนเดิม เท่านี้ก็ช่วยให้แฮปปี้ขึ้นได้แล้วค่ะ

9. อย่าเคร่งเครียดมากเกินไป

Economics of a four-day working week: research shows it can save ...

เป็นที่รู้กันดีว่าการทำงานที่บ้านต้องมีวินัยมาก เพราะเจ้านายมองไม่เห็น จึงต้องมีผลงานรองรับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าหนัก อย่าเครียด หรืออย่าหักโหมมากเกินไป จนถึงขั้นทำงานเลยเวลา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยของคนทำงานที่บ้าน เนื่องจากไม่มีเพื่อนร่วมงานคอยเตือน หรือสัญญาณที่บอกว่าถึงเวลาเลิกแล้ว จึงยากที่จะหยุดจนส่งผลให้กินเวลาชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งการทำงานฝืนต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ก็อาจจะทำให้งานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ต้องรู้จักอนุโลมหรือผ่อนผันบ้าง เช่น ลองเปลี่ยนความสนใจสักครู่ แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ หรือให้คิดแบบง่าย ๆ ว่า ทำตัวเหมือนทำงานที่ออฟฟิศนั่นเอง

10. ใช้ประโยชน์จากการทำงานที่บ้าน

5 ways to encourage children to try new foods | BBC Good Food

ประโยชน์อย่างหนึ่งของการทำงานที่บ้าน คือ ช่วยให้มีเวลาในการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นในเมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ขอแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากมัน ลองทำกิจกรรมที่ชอบ ที่อยากทำ หรือกิจกรรมที่ทำไม่ได้เวลาทำงานปกติ เพราะว่าส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทาง เช่น ทำขนม ทำอาหาร วาดรูป ฝึกเล่นดนตรี หรือออกกำลังกาย เป็นต้น

—————————————————————–
BIZ GALLERIA นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ | เริ่ม 13.6 ล้าน*
? ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษทันที คลิก ➤ http://bit.ly/2OYGhla
Office Residence 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอยใหญ่สุดในย่านเกษตรนวมินทร์ ทำเลทองของคนทำธุรกิจ
.
? BIZ BALANCE #โปรโมชั่นพิเศษ ⚡️9 ยูนิตสุดท้าย!!!⚡️ส่วนลดกว่า 2,000,000 บาท* #พร้อมโอน
.
ทำเลใจกลางเมือง ใกล้สถานที่สำคัญ
▪️ใกล้ทางด่วนพิเศษฉลองรัชฯ 5 นาที
▪️ใกล้ถนนเอกมัย 15 นาที
▪️ใกล้ Central Festival East ville 10 นาที
.
?BIZ GALLERIA พื้นที่ใช้สอย 475 ตร.ม.
———————————
FRIEND GET FRIENDS รับ 50,000 บาท*?
เพียงชวนเพื่อน หรือแนะนำญาติ คนรู้จัก ให้มาเป็นเจ้าของ BIZ GALLERIA
?สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02-946-1556
รายละเอียด: http://bit.ly/2OYGhla
แผนที่ https://goo.gl/maps/ywUMb8Zwc542
? www.pattra.co.th…

ความคุ้มค่าบนทำเล นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ (ตอนที่ 2 )

จากตอนที่แล้วที่เราได้พูดถึงศักยภาพเส้นทางของรถไฟฟ้าแห่งอนาคตไปแล้วนั้น วันนี้เรามาพูดถึงการเชื่อมต่อถนนและทางด่วนที่สามารถเชื่อมต่อกับโซน NEW CBD อย่าง ถนนรัชดาภิเษก, พระราม 9, ย่านถนนอโศก-ดินแดง กันบ้าง

เชื่อมต่อถนนและทางด่วนหลายสาย
ถนนนวลจันทร์ สามารถเชื่อมต่อกับถนนรามอินทราเพียง 3-4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่วางตัวทอดยาวคาบเกี่ยวพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งเหนือและฝั่งตะวันออก เชื่อมโยงถนนสายหลักและสายรองที่สำคัญๆ มากมาย ในช่วงต้นของถนนรามอินทราตัดกับถนนพหลโยธินเพื่อเดินทางเข้าไปในเมืองหรือมุ่งหน้าออกสู่ภาคเหนือ ต่อเนื่องไปถึงถนนวิภาวดีรังสิต และถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงปลายติดกับถนนสุวินทวงศ์ที่สามารถไปถึงฉะเชิงเทรา

ในขณะที่ตอนกลางสามารถตัดเข้าถนนและเส้นทางลัดต่างๆ อาทิ ถนนประดิษฐ์มนูธรรมและทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์เพื่อมุ่งตรงสู่ใจกลางเมืองทั้งเอกมัย ทองหล่อ และถนนสุขุมวิท ถนนลาดปลาเค้าลัดเลาะไปยังโซนลาดพร้าว บางกะปิ ถนนวัชรพลเชื่อมต่อสายไหมและลำลูกกา ถนนนวมินทร์ไปยังถนนเสรีไทยและรามคำแหง รวมทั้งถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออกที่วิ่งยาวตั้งแต่บางปะอินถึงบางนา-ตราด และยังตัดเข้าถนนมอเตอร์เวย์เพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็ว

โครงการ บิซ แกลเลอเรีย นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ (Biz Galleria)

โครงการ Biz Galleria เป็นหมู่บ้านแนวโฮมออฟฟิศ มีทำเลอยุ่ติดถนนนวลจันทร์ ในย่านรามอินทรา-เลียบทางด่วน จัดฟังก์ชั่นของแต่ละยูนิตจัดออกมาให้มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ เพราะมีขนาดที่ดินใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ ทำเลของโครงการตั้งอยู่บน ถนนนวลจันทร์ ซึ่งสามารถตัดจากถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา (ประดิษฐ์มนูธรรม) ไปยังถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) เป็นถนนที่มีทางเส้นทางลัดไปออกรามอินทราได้ ไปถนนนวมินทร์ได้ จัดว่าเป็นทำเลที่สามารถใช้รถยนต์เดินทางได้ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากมีทางเข้าทางออกเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย การเดินทางเข้า-ออกเมือง สามารถใช้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทราได้ โดยใช้ทางขึ้น-ลงที่ด่านรามนอินทราครับ และในระยะประมาณ 5 กิโลเมตรจะมีถนนวงแหวนกาญนาภิเษกให้ใช้ได้ด้วย ก็สามารถขับลงใต้ไปสุวรรณภูมิหรือไปบางนาได้ หรือขึ้นเหนือไปทางบางปะอินก็ได้เหมือนกัน

ความเจริญ และความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ พวกห้าง, ร้านค้า และร้านอาหารต่างๆก็มักจะกระจุกตัวกันอยู่บนเส้นเลียบทางด่วน, เกษตร-นวมินทร์ และ รามอินทรา และอยู่ในระยะที่ขับรถไปได้ไม่ไกล มีแหล่งชิลล์ที่ Hang-out สนุกสนานทุกรูปแบบอยากจะกินอะไร ย่านนี้ตอบโจทย์หมด ทั้งห้างสรรพสินค้าที่เน้นสินค้าดีไซน์ อย่าง Central Festival East Ville / The Crystal / The Walk / บุญถาวร ฯลฯ หรือตลาดกลางคืน ตลาดนวลจันทร์ / เลียบด่วนรามอินทรา / ตลาดหัวมุม / ช็อคโกแลต วิลล์ / ตลาดนัดรามอินทรา กม.9 รวมไปถึงศูนย์ออกแบบ อย่าง SCG Experience ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ธุรกิจร้านอาหารบันเทิง แหล่งไลฟ์สไตล์กลางคืนบนถนนเกษตรนวมินทร์ Community Mall ที่มีร้านค้าตอบโจทย์คนสาย Creative สุดๆ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  •  The Walk & Index เกษตร-นวมินทร์
  • บุญถาวร เกษตร-นวมินทร์
  • The Crystal
  • Crystal Design Center (CDC)
  • Tesco Lotus เลียบทางด่วน
  • HomePro เลียบทางด่วน
  • Fashion Island & The Promenade
  • Big-C เกษตร-นวมินทร์
  • Grand Sport Park
  • Foodland รามอินทรา
  • Big C รามอินทรา
  • Chocolate Ville

โครงการ บิซ แกลเลอเรีย นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ (Biz Galleria Nualchan)

ส่วนลักษณะของที่ดินของโครงการจะเป็นที่ดินยาวๆขนาดประมาณ 18 ไร่ แบบนี้ ด้านหน้าติดถนนนวลจันทร์ ส่วนด้านหลังจะติดคลองบางขวด ลักษณะอาคารเป็นบ้านแฝด 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 475 ตารางเมตร บนที่ดินขนาด 50 ตารางวา 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ ตัวบ้านจะแบ่งเป็นโซนสำนักงานที่ชั้น 1-3 และจะมีห้องนอนอยู่ที่ชั้น 4 เท่านั้น

Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์
พร้อมให้สัมผัส ความสมบูรณ์แบบของ Office Residence สไตล์ Modern Luxury ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานการทำงาน และการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว โดยออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง มีฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน บนพื้นที่ใช้สอยสูงสุดกว่า 761 ตร.ม. บนทำเลติดถนนใหญ่ สะดวกแก่การเดินทางเพื่อมาติดต่อธุรกิจ และมีที่จอดรถไว้รองรับถึง 6 คัน

BIZ GALLERIA นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ | เริ่ม 13.9 ล้านกว่า*
? ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษทันที คลิก ➤ http://bit.ly/2OYGhla

.
? BIZ BALANCE #โปรโมชั่นพิเศษ ⚡4 ยูนิตสุดท้าย!!!⚡ส่วนลดกว่า 2,000,000 บาท
.
———————————
FRIEND GET FRIENDS รับ 50,000 บาท*?
เพียงชวนเพื่อน หรือแนะนำญาติ คนรู้จัก ให้มาเป็นเจ้าของ BIZ GALLERIA
?สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02-946-1556
รายละเอียด: http://bit.ly/2OYGhla
แผนที่ https://goo.gl/maps/ywUMb8Zwc542