“Biz Galleria” 3 แปลงสุดท้าย ลดสูงสุด 2,000,000 ล้าน*

BIZ GALLERIA นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ Office Residence 4 ชั้น ที่เน้นการออกแบบแนวโมเดิร์น พื้นที่ใช้สอย 475 ตารางเมตร ปรับสมดุลชีวิตทำงานและครอบครัวที่ลงตัวด้วยโฮมออฟฟิศ #พื้นที่ใช้สอยใหญ่สุดบนถนนเกษตรนวมินทร์ เพียงพอสำหรับการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนตัวสำหรับอยู่อาศัย ที่ให้พื้นที่มากถึง 475 ตารางเมตร มาพร้อมที่จอดรถ 6 คัน ทำเลทองของคนทำธุรกิจ

BIZ GALLERIA นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ | 3 ยูนิตสุดท้าย

รับส่วนลด 2,000,000 ล้าน* | จากราคา 17.39 ล้าน เหลือเพียง 15.39 ล้าน*

? ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษทันที คลิก ➤ http://bit.ly/2OYGhla 

▪️ใกล้ทางด่วนพิเศษฉลองรัชฯ 5 นาที 

▪️ใกล้ถนนเอกมัย 15 นาที 

▪️ใกล้ Central Festival East ville 10 นาที

สัมผัสความสมบูรณ์แบบของ Office Residence สไตล์ Modern Luxury ออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง มีฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน บนทำเลติดถนนใหญ่ สะดวกแก่การเดินทางเพื่อมาติดต่อธุรกิจ มีที่จอดรถไว้รองรับถึง 6 คัน ใหญ่สุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์

BIZ GALLERIA นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานการทำงาน และการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว แบ่งสัดส่วนพื้นที่พักผ่อน และพื้นที่ทำงานแยกกันอย่างชัดเจน ให้ผู้อยู่อาศัยได้มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ไม่ต้องเดินทางไปทำงานไกล ช่วยให้มีเวลาได้ใช้ชีวิตและพักผ่อนมากขึ้น

BIZ GALLERIA นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ Office Residence 4 ชั้น แบ่งเป็น 

  • Type A พื้นที่ใช้สอย 475 ตารางเมตร หน้ากว้าง 8 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา 
  • Type B พื้นที่ใช้สอย 370 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 40 ตารางวา

——————————————————————————- 

?สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-946-1556

รายละเอียด: http://bit.ly/2OYGhla

แผนที่ https://goo.gl/maps/ywUMb8Zwc542

? www.astinestate.com

“ Common Area ” เชื่อมโยงทุกสเปซความอบอุ่นของครอบครัว

Common Area คือหัวใจหลักของบ้านที่ทำหน้าที่ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ภายในครอบครัว เชื่อมโยงสมาชิกต่างวัยหลากหลายรุ่นให้ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน ด้วยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเพื่อใช้เป็นจุดศูนย์รวมของคนภายในบ้าน โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นห้องนั่งเล่นเพียงอย่างเดียว วันนี้เราก็มีไอเดียการออกแบบจัดแบ่งสัดส่วนพื้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อทำกิจกรรมภายในครอบครัวมาฝากกันครับ

ก่อนอื่นเลยเราต้องพูดถึง Common Area กันก่อน โดยส่วนใหญ่แล้วบ้านหลายๆ บ้านนั้น จะแบ่งสัดส่วนพื้นที่ต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน ห้องนั่งเล่นคือห้องนั่งเล่นทำกิจกรรมต่างๆ ห้องครัวคือพื้นที่ทำอาหาร ห้องนอนก็ใช้สำหรับพักผ่อน แต่ Common Area นั้นจะลบภาพเหล่านั้นทิ้งออกไป เนื่องจาก Common Area ไม่ได้เจาะจงไปที่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งว่าห้องนี้จะทำกิจกรรมได้แค่เท่านี้นะ เช่นห้องครัวไว้ทำอาหาร แต่ห้องครัวก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ ที่ให้สมาชิกในครอบครัวมีกิจกรรมให้มาทำร่วมกัน เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์และความอบอุ่นของครอบครัวได้ ดังนั้นเราจึงได้เห็นไอเดียการเชื่อมโยงพื้นที่ต่างๆ ในบ้านที่เป็นสมัยใหม่มากขึ้น

“ เชื่อมต่อสเปซใช้งานสะดวก ” สำหรับบ้านไหนที่มีพื้นที่ค่อนข้างจะจำกัด หากมีการกั้นผนังเพื่อแบ่งแยกการใช้งาน อาจจะทำให้ขนาดพื้นที่ดูเล็กและแคบลงไปอีก ไอเดียนี้จึงออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของบ้านให้ต่อเนื่องโดยไม่มีอะไรกั้น แบ่งแยกการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วน โดยเชื่อมโยงห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร พื้นที่ครัว ไว้ด้วยกันในพื้นที่เดียว ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วย พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านข้างบ้าน ซึ่งทำให้พื้นที่ส่วนนี้ดูมีสเปซที่กว้างขวางไม่แออัด และยังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ไปพร้อมกันได้อีกด้วยครับ

“ พื้นที่เตรียมอาหารอันแสนอบอุ่น ” นี่ก็เป็นหนึ่งไอเดียพื้นที่เตรียมอาหาร ที่ไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดไว้เพียงแต่เป็นห้องครัวสี่เหลี่ยมปิดทึบเท่านั้น โดยมีการออกแบบพื้นที่ให้ลื่นไหลต่อเนื่องไปกับส่วนใช้งานอื่นๆ ได้ มีเคาน์เตอร์แพนทรี่และเคาน์เตอร์ครัว สำหรับจัดเตรียมหรือทำอาหาร โดยพื้นที่นี้ก็สามารถพาลูกๆ มาทำอาหาร ขนม หรือเมนูต่างๆ ร่วมกันในเวลาว่างได้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้สานสัมพันธ์ในครอบครัว และฝึกฝนทักษะให้กับลูกๆ ไว้ติดตัวได้อีกด้วย

“ เชื่อมต่อพื้นที่ Outdoor ” และถ้าหากบ้านไหนมีพื้นที่ด้านข้างบ้านเยอะมากพอ การขยายห้องนั่งเล่นให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ลานด้านข้างบ้านก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีมาก เพราะจะทำให้มีบรรยากาศกึ่งเอาท์ดอร์ที่ครอบครัวสามารถมาทำกิจกรรมร่วมกันได้หลากหลายมากขึ้น เช่น การทำอาหารหรือบาร์บีคิวทานพร้อมกันริมสระว่ายน้ำ ซึ่งก็สามารถปล่อยให้ลูกๆ เล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน เพราะอยู่ในการดูแลของพ่อแม่ตลอดเวลา และถ้าหากต้องการความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ก็สามารถเลือกใช้อุปกรณ์หรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถจัดเก็บและเคลื่อนย้ายได้ง่ายมาใช้ จะช่วยเพิ่มความเป็นระเบียบและสะอาดกับพื้นที่ข้างบ้านที่ถูกใช้งานได้ด้วยครับ 

จริงๆ แล้วยังมีไอเดียที่ให้เราสามารถปรับมุมต่างๆ ได้อีกมากมาย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ของแต่ละบ้านด้วย แต่สุดท้ายแล้วถ้ามีพื้นที่ที่เป็น Common Area ไว้ทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง ในช่วงเวลาว่างหรือวันหยุด ก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวเชื่อมสานสัมพันธ์ในครอบครัวได้ดีมากๆ เลยครับ

ทำความรู้จักกับ “ พื้นไม้ ” ประเภทต่างๆ หนึ่งในวัสดุสำคัญสำหรับการตกแต่งบ้าน

พื้นไม้เป็นวัสดุสำคัญในการใช้ตกแต่งบ้านหรือคอนโด ซึ่งมีให้เลือกใช้มากมายหลายแบบ ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละไลฟ์สไตล์ มีการออกแบบให้มีความสวยงาม และการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตามลักษณะพื้นที่การใช้งาน ซึ่งพื้นไม้ก็เป็นที่นิยมอยู่มากในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความอบอุ่นและผ่อนคลายเวลาเดินอยู่ในบ้านหรือคอนโด วันนี้จะเราไปรู้จักพื้นไม้แต่ละประเภทกัน พร้อมทั้งข้อดี และข้อเสียของพื้นไม้แต่ละประเภทด้วย จะมีประเภทไหนกันบ้าง รับชมกันได้เลยครับ

“ พื้นไม้จริง ” พื้นไม้ที่มีความสวยงาม และให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย โดยส่วนใหญ่แล้วไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นไม้ปูพื้น ได้แก่ ไม้สักทอง ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้ตะแบก ไม้ตะเคียน โดยไม้ที่กล่าวมานั้นจะมีราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้เราพบเห็นคนนำมาใช้ปูพื้นน้อย แต่ก็มีไม้ที่มีราคารองลงมาอย่างเช่น ไม้เต็ง  ไม้รกฟ้า ซึ่งก็ให้ความรู้สึกและผิวสัมผัสที่ไม่ต่างกัน การเลือกใช้ไม้จริงมาปูพื้นส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้ 

ข้อดีของไม้จริง – แข็งแรง คงทน ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น เป็นธรรมชาติ

ข้อเสียของไม้จริง – ราคาสูง วัสดุหายาก มีปัญหาเรื่องปลวก มีความยืด-หดตามสภาพอากาศ ไม่ทนความชื้น

“ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ” หนึ่งในประเภทของไม้ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ตัวพื้นไม้เอ็นจิเนียร์จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างไม้จริงกับวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ โดยใช้พื้นไม้จริงปิดทับไม้เนื้อแข็ง อัดสลับกับเสี้ยนไม้ ปิดทับด้วยยูวีอะคริลิคแลคเกอร์ในการเคลือบหน้าผิว เพื่อให้มีความสวยงามและทนทานต่อแรงขีดข่วน

ข้อดีของเอ็นจิเนียร์ – มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน ผิวสัมผัสเสมือนไม้จริง แข็งแรงคงทน ราคาตามเกรดวัสดุ

ข้อเสียของไม้เอ็นจิเนียร์ – ไม่สามารถนำกลับมาขัดหน้าแผ่นไม้ใหม่ได้

“ พื้นไม้ลามิเนต ” อีกหนึ่งพื้นไม้สังเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเพื่อทดแทนไม้จริง โดยมีพื้นผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกเสมือนไม้จริงแต่ราคาจับต้องได้มากกว่า โดยพื้นไม้ลามิเนตประกอบไปด้วย Wear Layer ผิวชั้นบนสุด ทำหน้าที่เคลือบชั้นผิวของพื้นไม้ให้มีความคงทน ป้องกันรอยขีดข่วน Pattern Layer ชั้นลวดลาย เป็นแผ่นวัสดุพิมพ์ลายเลียนแบบสีและลวดลายของไม้ชนิดต่างๆ Substrate Later ชั้นแกนหลัก เป็นวัตถุสังเคราะห์ทดแทนเนื้อไม้จริง มีเส้นใยสังเคราะห์ เศษไม้ กาว เป็นส่วนประกอบ Backing Layer ชั้นแผ่นรองพื้นเป็นชิ้นส่วนประกอบล่างสุด ทำหน้าในการป้องกันความชื้นให้กับเนื้อไม้ในการปูพื้น

ข้อดีของไม้ลามิเนต – ผิวสัมผัสเสมือนไม้จริง ราคาถูก ค่าบำรุงรักษาน้อย ทนปลวกและความชื้น

ข้อเสียของไม้ลามิเนต – หากปูพื้นได้ไม่ดีและพื้นไม้ไม่สม่ำเสมอ จะเกิดการพองตัว หรือชำรุดได้ง่ายเมื่อเจอความเปียกชื้น

“ พื้นไม้ปาร์เกต์ ” พื้นไม้จริงที่มีขนาดเล็ก เป็นไม้ที่เหลือจากการตัดไม้เป็นชิ้นมาเรียงประกอบกัน โดยผ่านการอบไสเรียบสี่หน้า การอบต้องอบด้วยอุณหภูมิมาตรฐานของพื้นไม้ เพื่อให้เกิดความทนทานต่อการยืดและหดตัว โดยไม้ที่นิยมนำมาใช้ผลิตได้แก่ ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ตะแบก ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้บีช เป็นต้น

ข้อดีของไม้ปาร์เกต์ – เลือกลวดลายได้ตามต้องการ ให้ผิวสัมผัสอบอุ่น สวยงาม

ข้อเสียของไม้ปาร์เกต์ – ไม่สามารถปูทับพื้นหินหรือพื้นกระเบื้องได้

“ พื้นไม้ไวนิลหรือพื้นไม้ยาง ” พื้นไม้สังเคราะห์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด นิยมนำมาเลือกใช้ปูกับพื้นคอนโดมิเนียม เนื่องจากสามารถปูพื้นได้ง่าย ใช้เวลาปูพื้นน้อย และมีให้เลือกหลายรูปแบบ ราคาไม่แพง โดยตัวเนื้อไม้ไวนิลจะประกอบด้วย วัสดุฟิล์มเคลือบผิวหน้า ชั้นป้องกันรอยกดทับ แผ่นพิมพ์ลวดลายไม้ แผ่นปิดหลังปัองกันความชื้น 

ข้อดีของไม้ไวนิลหรือพื้นไม้ยาง – ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย มีลวดลายให้เลือกมากมาย ปูพื้นได้ง่ายและใช้เวลาน้อย ทนแรงขีดข่วนและปลวก สามารถปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้โดยไม่ต้องรื้อถอน

ข้อเสียของไม้ไวนิลหรือพื้นไม้ยาง – ผิวสัมผัสมีความแข็งกระด้างหากเดินด้วยเท้าเปล่า ไม่ทนต่อความชื้น เกิดเชื้อราได้ง่าย

รวมวิธีกำจัด “ฝุ่นละอองภายในบ้าน” หายใจสะดวก ปลอดภัยทั้งครอบครัว

รวมวิธีกำจัด “ฝุ่นละอองภายในบ้าน” หายใจสะดวก ปลอดภัยทั้งครอบครัว ?

ปัญหาของฝุ่นละอองภายในบ้าน เป็นหนึ่งในปัญหาที่สามารถพบเจอกันได้ในทุกบ้าน มากหรือน้อยแตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อม ซึ่งฝุ่นละอองเป็นอันตรายกับคนเรามากกว่าที่คิด เพราะสามารถส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ และเข้าสู่อวัยวะอย่างอื่นๆ ภายในร่างกายได้ ดังนั้นเพื่อลดปริมาณเชื้อโรคที่เจือปนมากับฝุ่นละออง เราสามารถจัดการปัญหาของฝุ่นละอองภายในบ้าน ให้ลดน้อยลงได้หลากหลายวิธี วันนี้เราจะมาแบ่งปันวิธีการขจัดปัญหาฝุ่นละอองภายในบ้านให้หมดไป เพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์หมุนเวียนภายในบ้าน หายใจสะดวกสบาย ปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ ทั้งครอบครัว 

“ เครื่องฟอกอากาศ ” เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ควรมีติดบ้านไว้ในปัจจุบัน โดยมีราคาที่ไม่แพงสามารถจับต้องได้ อีกทั้งยังมีการออกแบบดีไซน์ให้ดูโมเดิร์นด้วย  ซึ่งเครื่องฟอกอากาศก็จะช่วยฟอกอากาศเสียและดักจับฝุ่นรอบทิศทาง ช่วยให้อากาศที่หมุนเวียนอยู่ภายในบ้านนั้นสะอาดบริสุทธิ์ ปลอดภัยจากแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ โดยการเลือกเครื่องฟอกอากาศนั้นควรเลือกให้เหมาะพื้นที่หรือขนาดของห้อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานอย่างเต็มที่.

“ กวาด-ถู พื้นบ้านเป็นประจำ ” โดยการกวาดและถูพื้นบ้านเป็นประจำนั้น จะช่วยลดบริมาณของฝุ่นที่จับตัวกันได้มาก ฝุ่นส่วนใหญ่จะจับตัวกันตามซอกตามมุมต่างๆ หากกวาดบริเวณที่มีฝุ่นเยอะบ่อยๆ เทฝุ่นในถังขยะทิ้ง จะช่วยลดการสะสมของฝุ่นได้ดี หลังจากกวาดพื้นเสร็จแล้ว ให้ใช้ไม้ถูพื้นชุบน้ำหมาดๆ ทำความสะอาดพื้น จะช่วยกำจัดฝุ่นที่หลงเหลือจากตอนกวาดพื้น ถ้าหากเราปล่อยฝุ่นไว้นานจะขจัดฝุ่นออกยากมากขึ้น

“ ทำความสะอาดบนโต๊ะ ตู้ ชั้นวาง ” เป็นอีกจุดที่ฝุ่นชอบจับตัวกันนั่นก็คือ โต๊ะ ตู้ ชั้นวาง การทำความสะอาดบนโต้ะ ตู้ ฃั้นวาง นั้นสามารถทำด้วยวิธีง่ายๆ โดยเช็ดหรือปัดฝุ่นด้วยผ้าชุบน้ำหรือใช้ไม้ขนไก่ เพื่อกำจัดฝุ่นตามจุดต่างๆ หรือซอกมุมที่ฝุ่นจับ โดยทำเป็นประจำอยู่บ่อยๆ เพราะฝุ่นนั้นสามารถจับตัวกับสิ่งของเหล่านี้ได้ตลอดเวลา ควรหมั่นทำความสะอาดในทุกพื้นที่ เพื่อลดปริมาณของฝุ่นละอองนั่นเอง

“ เก็บผ้าที่ไม่ได้ใช้ ” เก็บผ้าที่ไม่ได้ใช้ไว้ในภาชนะพลาสติกหรือในตู้เสื้อผ้าให้มิดชิด รวมไปถึงเสื้อผ้าต่างๆ ควรเก็บใส่ตู้เอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นจับตัวกับเสื้อผ้า เพราะผ้าเป็นแหล่งที่ฝุ่นจะเกาะได้อย่างดี ดังนั้นยิ่งนำเสื้อผ้าเก็บไว้ในที่ที่มีฝุ่นน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี และควรรักษาความสะอาดตู้เสื้อผ้าเสมอ และไม่ควรปล่อยให้ตู้เสื้อผ้ารก ซึ่งจะทำให้ฝุ่นขึ้นได้ง่าย

“ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนสัปดาห์ละครั้ง ” เพื่อช่วยลดฝุ่นละอองในบ้าน โดยการนำผ้าปูที่นอนมาซักบ่อยๆ รวมไปถึงผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียงและหมอน ซึ่งผ้าเหล่านี้เป็นที่สะสมฝุ่น บ่อยครั้งที่เวลานอนหลับและหายใจสูดฝุ่นละอองเข้าไป จะทำให้เกิดอาการคัดจมูกตอนตื่นนอน เพราะเราหายใจเอาอากาศที่มีฝุ่นเข้าไปตลอดคืน วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ก็คือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและนำมาซัก โดยเฉพาะกับครอบครัวที่นำสัตว์เลี้ยงมานอนด้วย ก็ควรที่จะต้องดูแลให้ดีมากยิ่งขึ้น 

“ ลดจำนวนของตกแต่งภายในบ้าน ” การตกแต่งบ้านให้สวยงามตามสไตล์ของผู้อยู่อาศัยนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งของต่างๆ ที่นำมาตกแต่งนั้นก็ทำให้มีฝุ่นเยอะขึ้นเช่นกัน ถ้าตามพื้นที่ต่างๆ ชั้นวาง โต๊ะ ภายในบ้านมีแต่ของตกแต่งที่ถูกวางไว้เฉยๆ อยู่เต็มไปหมด และไม่ได้มีการเช็ดหรือปัดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดเลย ก็คงจะทำให้มีแต่ฝุ่นจับตัวกันมากขึ้น ทำความสะอาดยากและลดฝุ่นยากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเก็บกวาดของที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บ้านโปร่งโล่ง และทำความสะอาดง่ายขึ้น

“ เครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ ” เครื่องดูดฝุ่นฝนปัจจุบันนั้นมีให้เลือกอย่างมากมาย แต่ต้องดูให้แน่ใจว่าที่เราใช้กันอยู่นั้น เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่นจริง เพราะเครื่องดูดฝุ่นไม่เพียงแค่ต้องการพลังดูดที่ดีเท่านั้น ตัวเครื่องจะต้องมีแปรงแรงสูงที่จะทำให้กำจัดฝุ่นที่สะสมอยู่ในพรมได้ ซึ่งแปรงชนิดนี้จะช่วยดักจับฝุ่นได้ดีขึ้นด้วย โดยจะดูดฝุ่นพื้นบริเวณอื่นที่ไม่ใช่พื้นพรมก็ได้ การที่ดูดฝุ่นบ่อยๆ จะช่วยลดฝุ่นที่จับตัวกับเฟอร์นิเจอร์และมุมต่างๆ ได้ และควรเปลี่ยนแผ่นกรองในเครื่องดูดฝุ่นบ่อยๆ จะช่วยทำให้เครื่องดูดฝุ่นอยู่ในสภภาพดีพร้อมใช้งาน

“ ธรรมชาติบำบัด ” พูดถึงภายในกันมาหมดแล้ว มาพูดถึงการช่วยลดฝุ่นจากภายนอกตัวบ้านกันบ้าง เพราะการปลูกต้นไม้ในพื้นที่รอบบ้านนั้น จะช่วยกรองฝุ่นละอองได้ดี โดยเฉพาะบ้านที่มีบริเวณกว้างๆ มีต้นไม้ใหญ่ แต่ถ้าหากจะต้องเลือกพันธุ์ไม้มาปลูก ก็ควรศึกษาและเลือกลักษณะใบที่สามารถกันฝุ่นได้ จะช่วยลดปริมาณฝุ่นเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีขึ้น และยังช่วยทำให้บริเวณบ้านมีบรรยากาศเย็นสบาย ร่มรื่นขึ้นด้วยครับ

เสน่ห์เรียบง่ายกับการแต่งบ้าน Minimal Cozy Style สะท้อนไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว

ในปัจจุบันผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านกันมากขึ้น จึงใช้เวลาว่างหันมาตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ ปรับเปลี่ยนมุมต่างๆ ตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ และสไตล์ที่เราเริ่มพบเห็นไอเดียกันบ่อยๆ ในช่วงหลังมานี้นั้น ก็คือ Minimal การตกแต่งที่เรียบง่าย ที่ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งสบายตา โทนสีที่จะเน้นไปทางโมโนโทน และอีกหนึ่งสไตล์ก็คือ Cozy ที่เน้นใช้วัสดุที่ทำจากธรรมชาติมาตกแต่งบ้าน เช่น พื้น ผนัง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ด้วย ซึ่งเราจะเห็นผู้คนนำทั้ง 2 สไตล์นี้มาผสมผสานกันในการแต่งบ้าน จนเกิดเป็นอีกหนึ่งสไตล์ขึ้นมา ก็คือ Minimal Cozy Style วันนี้เราจะมาดูกันครับว่า  Minimal Cozy Style จะเป็นอย่างไร และน่าสนใจยังไงครับ

Minimal คือสไตล์การตกแต่งที่อยู่อาศัยที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งน้อยชิ้น แต่ต้องแฝงด้วยประโยชน์ใช้สอย ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบครัน ดีไซน์เรียบทั้งรูปทรง สี ไม่เน้นลวดลายมากนัก มีเส้นสายตาที่ตรง การจัดวางต่างๆ จะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เอกลักษณ์ในการตกแต่งสไตล์นี้คือ มีความสมดุลและความผ่อนคลาย โทนสีแบบโมโนโทน เช่น สีขาว สีเทาอ่อน สีเทาเข้ม และยังเน้นการจัดสเปซให้มีความโปร่งโล่งและดูกว้างขวาง แบ่งเป็นพื้นที่ 60% ของตกแต่ง 40% ทำให้สไตล์นี้ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในหมู่คนรุ่นใหม่ ที่ชอบบ้านที่ดูมีความสงบ ดูสบายตา สะอาด และมีพื้นที่ว่างเยอะ

สไตล์ Cozy คือ การผสมผสานธรรมชาติ และอารมณ์ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย มาถ่ายทอดในการตกแต่งบ้าน เช่น การปูพื้น โทนสี ของตกแต่ง เครื่องเรือนรวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งโทนสีที่นิยมนำมาใช้คือเฉดสีที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ อย่างเช่น กลุ่มสีเอิร์ธโทน โดยภาพรวมเป็นการตกแต่งภายใน เน้นความโล่งและเปิดรับแสงในทุกด้าน อีกหนึ่งสิ่งที่ดีและห้ามพลาดในการตกแต่งบ้านในสไตล์ Cozy คือ เฟอร์นิเจอร์จากวัสดุธรรมชาติ โดยเฉพาะวัสดุตระกูลไม้ ไม่ว่าจะเป็น ไม้จริงหรือไม้สังเคราะห์ มี Mood&Tone ของความเป็นธรรมชาติ ทั้งพื้น เพดาน ผนัง รวมทั้งเฟอรนิเจอร์ต่างๆ มักจะมีงานไม้เป็นหลัก และมีวัสดุทดแทนอื่นๆ เช่น งานหินอ่อน ปูนเปลือยสีโทนอ่อน ไม้คอร์ก ไม้เทียม ที่นำมาทดแทนงานไม้จริงได้ จุดเด่นของวัสดุกลุ่มนี้นั้น นอกจากมีความสวยงามและการสร้างความรู้สึกที่ดีแล้ว ยังมีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับทุกการใช้งาน ซึ่งพอดูภาพรวมของการตกแต่งบ้านสไตล์นี้นั้น จะให้ความรู้สึกที่อบอุ่น เบาสบาย และสร้างความผ่อนคลาย ทำให้เกิดความสงบสุขเมื่อก้าวเข้าบ้าน จึงทำให้การแต่งบ้านสไตล์ Cozy เป็นอีกหนึ่งสไตล์ยอดฮิตและตอบโจทย์การใช้พื้นที่ให้กับคนยุคนี้ได้เป็นอย่างดี

สไตล์ Minimal & Cozy คือการนำเอาความเรียบง่ายของสไตล์ Minimal มาผสมผสานกับการตกแต่งที่มีความอบอุ่นในแบบ Cozy เป็นการนำเอาการตกแต่ง การเลือกใช้วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ โทนสี และการออกแบบของทั้ง 2 สไตล์ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดการตกแต่งบ้านรูปแบบใหม่ โดยภาพที่คุ้นเคยของสไตล์นี้ที่เห็นกันทั่วไปก็คือ สไตล์การตกแต่งบ้านของประเทศญี่ปุ่น ที่มีความเรียบง่าย ดูโปร่งโล่งสบายตา 

โดยสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็น Minimal & Cozy มีอยู่หลากหลายอย่างด้วยกัน แต่จุดที่เด่นเลยก็คือการตกแต่งโดยรวม ต้องออกมาในรูปแบบที่มีความเรียบง่าย จับเอาเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งไปวางตรงไหนก็ทำให้ห้องดูสบายตา ไม่โดดออกมาจากภาพรวมมากเกินไป มีความลงตัว ลดความยุ่งเหยิงของสิ่งของหรือลวดลาย คุมภาพรวมด้วยวัสดุสีไม้ ช่วยดึงความรู้สึกอบอุ่นของการแต่งบ้านสไตล์ Minimal & Cozy ออกมาได้อย่างสมบูรณ์

อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่าการแต่งบ้านสไตล์นี้ จะเป็นการตกแต่งด้วยดีไซน์ที่เรียบ ไม่เน้นการใช้ลวดลาย จริงๆ แล้วการออกแบบสไตล์ Minimal & Cozy ก็มีแฝงการใช้ลวดลายลงไปด้วยเหมือนกัน โดยลวดลายที่พูดถึงคือการออกแบบผนังด้วยระแนงไม้ ซึ่งระแนงไม้สามารถดัดแปลงให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบระแนงไม้เป็นฉากกั้นสัดส่วนของห้องต่างๆ ออกแบบให้เป็นประตูปิดชั้นวางของหรือตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะช่วยให้บ้านมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นด้วย

อีกหนึ่งส่วนสำคัญของบ้านสไตล์ Minimal & Cozy ก็คือพื้นบ้าน ซึ่งก็มีพื้นบ้านให้เลือกใช้อยู่หลายแบบ เช่น พื้นไม้จริง พื้นลามิเนต แผ่นไม้คอร์ก เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ซึ่งการเลือกใช้ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับบ้านด้วย

พื้นไม้จริง ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่คนไทยนิยมใช้กัน เพราะในอดีตเป็นวัสดุที่หาได้ง่าย ปลูกทดแทนได้ โดยไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำพื้นจะเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้สัก เป็นต้น สามารถนำมาใช้ได้เป็นวัสดุในการสร้างบ้านได้ทั้งหลัง แต่ปัจจุบันบ้านเกือบทั้งหมดถูกสร้างด้วยปูน บ้านไม้จะพบเห็นได้ตามต่างจังหวัดได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ไม้ยังถูกนำมาเป็นวัสดุสำหรับตกแต่งบ้านอยู่ ซึ่งก็เพราะเนื้อไม้นั้นจะให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า สีสันอบอุ่น แต่ปัจจุบันนี้ไม้เริ่มหายากขึ้น จึงทำให้มีราคาที่สูง ซึ่งบ้านที่จะนำไม้จริงมาใช้ตกแต่งก็อาจจะมีต้นทุนที่สูงมากขึ้น บ้านทั่วไปจึงนิยมใช้วัสดุทดแทนไม้จริงแทน

พื้นไม้ลามิเนต เป็นพื้นไม้ที่ถูกผลิตขึ้นด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ มีไม้เป็นส่วนประกอบแค่บางส่วน ปัจจุบันพื้นประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะมีความทนทานและยังสวยงามเหมือนไม้จริง นำมาติดตั้งง่าย มีล๊อกที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นไม้ มีความหนาอยู่หลากหลายขนาด แต่ที่นิยมใช้จะมีความหนาตั้งแต่ 6 -12 มิลลิเมตร อีกหนึ่งเหตุผลที่คนนิยมนำมาใช้ก็เพราะว่าอายุการใช้งาน โดยเกรดธรรมดาจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10-15 ปี และเกรดพรีเมี่ยมมีอายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป

แผ่นไม้คอร์ก นับเป็นหนึ่งในวัสดุรักษ์โลก โดยการผลิตนั้นจะใช้วิธีการลอกเปลือกของต้นไม้ชั้นนอกออก นำมาผลิตเป็นแผ่นไม้คอร์กสำเร็จรูป ต้นไม้ที่ถูกลอกเปลือกนั้นจะไม่ตายและมีการเจริญเติบโตต่อไป เมื่อระยะเวลาผ่านไปก็สามารถลอกเปลือกออกมาใช้งานได้อีก คุณสมบัติที่โดดเด่นคือเป็นวัสดุดูดซับเสียงได้ดี สามารถใช้ทำเป็นผนังห้องซ้อมดนตรี หรือห้องนอนได้ ผิวสัมผัสสวยงามและมีกลิ่นอายของสไตล์ลอฟท์ปะปนอยู่ด้วย

และทั้งหมดนี้ก็คือการตกแต่งบ้านสไตล์ Minimal & Cozy ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ และสะท้อนไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวของผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสไตล์การแต่งบ้านที่ยังคงนิยมอยู่มากในปัจจุบัน ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและทำให้บ้านดูโปร่งโล่งสบายตา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอบโจทย์คนในยุคสมัยปัจบันได้เป็นอย่างดี

15 นาที จาก… “Biz Galleria” ไปไหนได้บ้าง?

“ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ ” Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนทำเลเกษตร-นวมินทร์  ทำเลติดถนนใหญ่ สะดวกแก่การเดินทางเพื่อมาติดต่อธุรกิจ หรือจะเดินทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ก็สะดวกไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกสู่พื้นที่รอบนอกของกรุงเทพฯ หรือเดินทางเข้าสู่ทำเลธุรกิจใจกลางเมือง ก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน วันนี้เราจะมาดูกันว่า จากโครงการ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ นี้ ภายใน 15 นาที จะสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ใดได้บ้างครับ

โครงการ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ นั้น สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับทำเลต่างๆ ได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่รอบนอก หรือใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งภายในเวลา 15 นาทีจากตัวโครงการนั้น สามารถเดินทางไปยังทำเลที่ขึ้นชื่อเรื่องความครึกครื้น เป็นทำเลแห่งสีสันอย่าง “ทองหล่อ-เอกมัย” ได้ ซึ่งช่วยให้คนที่มีนัดประชุม นัดสังสรรค์นั้นไปถึงที่หมายได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ New CBD อย่าง “รัชดา-พระราม 9” ได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความสะดวกสบายให้กับคนที่ต้องเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ เดินทางไปทำงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย และถ้าหากเป็นช่วงที่จราจรหนาแน่น ก็อาจจะใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิมครับ

“ทองหล่อ-เอกมัย” ทำเลแห่งสีสันและความคึกคักของกรุงเทพฯ 

ในทำเลนี้ต้องบอกว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก เพราะว่าสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กระจายอยู่รอบพื้นที่ทำเลอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร แหล่งเรียนรู้ สถานศึกษา อาคารสำนักงาน รวมไปถึงสถานที่แฮงค์เอ้าท์ระดับ High-End จึงทำให้ทำเลนี้เป็นจุดศูนย์รวมของคนหลายวัย หลากหลายบทบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ “ทองหล่อ-เอกมัย” ถือเป็นทำเลที่โดดเด่นที่สุดบนถนนสุขุมวิท ที่ยังมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นระยะๆ และยังคงไม่หยุดพัฒนาอีกด้วยครับ

“รัชดา-พระราม 9” New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

ย่านที่รวบรวมออฟฟิศสำนักงานเกรด A ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรม คอนโดไฮเอนด์ บ้านเดี่ยว โฮมออฟฟิศ สวนสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย แถมในทำเลนี้ยังมีระบบขนส่งมวลชนอย่าง MRT และ ARL ให้บริการด้วย ซึ่งทำให้การเดินทางเชื่อมต่อจากพื้นที่อื่นเข้าสู่ รัชดา-พระราม 9 สะดวกขึ้นไปอีก 

ซึ่งนับตั้งแต่มีบริการอย่างรถไฟฟ้าเข้าถึง พื้นที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อย่างเช่น อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET), อาคารสำนักงาน AIA Capital Center, Fortune Town, Centralplaza Grand Rama รวมไปถึงไลฟ์สไตล์มอลล์ต่างๆ อีกมากมาย ในอนาคตนั้นทำเลนี้ยังสามารถพัฒนาเติบโตขึ้นไปได้อีก เนื่องจากมีโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกมากมาย เช่น เดอะ แกรนด์ พระราม 9 ที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง และยังมีที่ดินที่กำลังจะออกเสนอให้กับเอกชนได้เข้ามาร่วมลงทุนเหลืออยู่อีกด้วย ทำให้ในปัจจุบันทำเลรัชดา-พระราม 9 ถูกมองเป็นทำเลธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ไปแล้วครับ

อัพเดทความคืบหน้า “ ด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง ”

อัพเดทความคืบหน้า “ ด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง ”

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตั้งเป้าดำเนินการจัดจ้างผู้รับจ้างก่อสร้าง โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ในทุกช่วงสัญญาให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้ทันเวลาก่อสร้างที่ปรับลดลงจาก 39 เดือน ให้เหลือเพียง 34 เดือน เพื่อให้ลดความเสียหายจากปัญหาความล่าช้า และเพื่อจะเร่งช่วยปัญหาการจราจรที่ติดขัดเป็นอย่างมากในชั่วโมงเร่งด่วนและในวันหยุดช่วงเทศกาล.ซึ่งในปัจจุบันได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว 2 สัญญา ได้แก่ช่วงเซ็นทรัลพระราม 2-โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร คืบหน้าประมาณ 20% และช่วงสะพานขึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาด 8 ช่องจราจร และงานทางด่วน ขนาด 6 ช่องจราจร 2 กิโลเมตร โดยคืบหน้าแล้ว 40% ในสัญญาช่วงที่ 5 งานรื้อย้ายด่านเก็บค่าผ่านทางพระราม 3 มีระยะเวลาดำเนินงาน 180 วัน ในการก่อสร้างระบบจัดเก็บค่าผ่านทางที่ด่านพระราม 3 แห่งใหม่ ต้องการให้มีการใช้งานในลักษณะเดียวกันกับที่ด่านปัจจุบันใช้งานอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของซอฟต์แวร์ที่ต้องทำงานร่วมกับระบบปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ล่าสุด กทพ. ปิดดีลสัญญาจ้างก่อสร้าง ในสัญญาช่วงที่ 1 และ 3 เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการทางพิเศษดังกล่าวได้ในช่วงปลายปี 2567 กทพ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตกนี้ จะช่วยให้การจราจรของกรุงเทพมหานคร ที่มุ่งสู่ภาคใต้ของประเทศไทยมีความคล่องตัวขึ้น

ที่มาข่าว : www.prachachat.net

“แอสทิน เอสเตท” บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนให้โรงพยาบาลปัตตานี

เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 บริษัท แอสทิน เอสเตท จำกัด ได้บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลปัตตานี จำนวน 3 เครื่อง เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้กับโรงพยาบาลชุมชนที่ขาดแคลนอย่าง รพ.มายอ, รพ.ไม้แก่น, รพ.ปานาแระ เพื่อช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน

เลียบด่วนรามอินทรา ทำเลขึ้นชื่อเรื่อง “ความอุดมสมบูรณ์”

หากเรานึกถึงทำเลสักทำเลหนึ่ง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมพื้นที่อย่างครบครัน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “เลียบทางด่วนรามอินทรา” โผล่ขึ้นมาในลิสต์ครับ ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาบริเวณนี้ ตลอดแนวเส้นทางจะเห็นได้ว่า มีสถานที่ต่างๆ เรียงรายอยู่ริมสองฝั่งข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ตลาดนัดกลางคืน ตลาดต้นไม้ หรือแม้แต่ร้านอาหาร คาเฟ่ ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มาก แถมยังเป็นทำเลที่เดินทางเชื่อมต่อทำเลอื่นๆ ได้อย่างสะดวกสบายด้วย เพราะติดทางด่วนฉลองรัชและจุดขึ้นลงทางด่วนครับ 

และถ้าเราเป็นคนที่ใช้ชีวิตในทำเลนี้ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยหรือทำงาน เราสามารถเลือกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยระยะยาวได้เลยครับ เนื่องจากพื้นที่ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกมากในอนาคต ซึ่งการเลือกที่อยู่อาศัยก็ต้องคำนึงถึงการใช้ชีวิต และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยด้วยครับ

โครงการที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทำเลนี้ ก็คือ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ สัมผัสความสมบูรณ์แบบของ Office Residence ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานการทำงาน และการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว ออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง แบ่งฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน พื้นที่ใช้สอยมากถึง 475 ตร.ม. ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก ทำเลทองของคนทำธุรกิจ

“ Central Festival Eastville ”

ห้างสรรพสินค้าที่รวบรวมไลฟ์สไตล์ และบริการไว้อย่างครบครัน เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ธนาคาร โรงภาพยนตร์ IT Electronic ถือเป็นหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของผู้คนทุกวัย ไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ต่างก็มักจะมารวมตัวกันที่นี่ครับ 

“ Central Festival Eastville ”

คอมมูนิตี้มอลล์ยอดฮิต ที่มีสไตล์การออกแบบโดดเด่นเฉพาะตัว ในสไตล์ Califonia Design ที่เป็นที่นิยมแพร่หลายในอเมริกาครับ โดยที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวบรวมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของย่านนี้เลย เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่เดียว ไม่ว่าจะแหล่งช้อปปิ้ง โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส หรืออื่นๆ อีกมากมาย ก็สามารถมาใช้บริการกันได้ที่นี่ครับ

“ CDC : Crystal Design Center ”

ศูนย์รวมงานดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเซีย รวบรวมผลิตภัณฑ์ด้านการตกแต่ง วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ วัสดุตกแต่งพื้นและผนัง ยังมีศูนย์ประชุม ห้องสัมมนา ศูนย์แสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ ห้องจัดเลี้ยง ตลอดจนพื้นที่สำนักงานออฟฟิศ ซีดีซีจึงถูกจัดเป็น วัน-สต๊อป ในการสรรหาและซื้อสินค้าและบริการด้านการตกแต่งที่ครบวงจรครับ หากใครต้องการแต่งบ้าน แต่งออฟฟิศหรือซ่อมแซมพื้นที่ต่างๆ ก็สามารถมาหาวัสดุ อุปกรณ์ได้จากที่นี่เลยครับ

“ The Walk เกษตรนวมินทร์ ”

ไลฟ์สไตล์มอลล์แนวคิดใหม่ Village Walking Street ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว ที่มีคอนเซ็ปต์ให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น สอดคล้องทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว ฉีกแนวด้วยการเป็นสถาปัตยกรรมแบบ แบบ Santa Monica Village ตกแต่งภายในบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบจำลอง Santa Monica Shopping พร้อมให้เราได้ไปเดินเล่น ช้อปปิ้งอย่างแบบสบายใจ โดยภายในมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ สถาบันติวเตอร์ ไอทีสโตร์ ร้านเสริมความงามและสุขภาพ Market Walk สถาบันการเงิน ร้านหนังสือ ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า Index Living Mall เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รวมทุกสิ่งอย่างไว้ได้ครบครัน

“ ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา ”

ตลาดนัดกลางคืนยอดฮิตประจำทำเลนี้ก็ต้องเป็นที่ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ที่นี่มีของขายมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ต้นไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กๆ ฯลฯ และยังมีโซนที่เป็นของกินที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายอย่างเลยครับ เป็นอีกหนึ่งที่ที่ผู้คนมาเดินจับจ่ายใช้สอย หรือหาของกินกับครอบครัว หรือมากับกลุ่มเพื่อนครับ

“ ตลาดหัวมุม ”

อีกหนึ่งตลาดที่ให้บรรยากาศคล้ายๆ กันก็เป็นตลาดหัวมุมครับ ที่นี่ก็มีของขายเยอะไม่แพ้ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราเลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับต่างๆ ก็มีให้เลือกกันแบบไม่ซ้ำจำเจ อีกทั้งยังมีร้านอาหารต่างๆ ให้ได้เลือกทานแบบไม่ซ้ำเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ของทอดต่างๆ หรือเดินเยอะๆ คอแห้งหิวน้ำ ก็มีร้านน้ำ ร้านนมต่างๆ รายล้อมอยู่รอบพื้นที่ตลาดเลย

“ Biz Galleria นวลจันทร์ เกษตรนวมินทร์ ”

Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ พร้อมให้สัมผัสความสมบูรณ์แบบของ Office Residence สไตล์ Modern Luxury ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานการทำงาน และการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว โดยออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง มีฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน บนพื้นที่ใช้สอยสูงสุดกว่า 475 ตร.ม. บนทำเลติดถนนใหญ่ สะดวกแก่การเดินทางเพื่อมาติดต่อธุรกิจ และมีที่จอดรถไว้รองรับถึง 6 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV และสวนส่วนกลาง

  • Type A

 พื้นที่ใช้สอย 475 ตารางเมตร หน้ากว้าง 8 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา 

  • Type B

พื้นที่ใช้สอย 370 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 40 ตารางวา

? ใกล้ทางด่วนพิเศษฉลองรัชฯ 5 นาที 

?ใกล้ถนนเอกมัย 15 นาที 

?ใกล้ Central Festival East ville 10 นาที 

หากสนใจสามารถ ลงทะเบียนขอรับข้อมูลได้ที่ https://bit.ly/3gzU8vS 

? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-946-1556 

แผนที่ https://goo.gl/maps/ywUMb8Zwc542 

“Modern Classic” สไตล์การตกแต่งบ้านที่สะท้อนตัวตนอย่างมีระดับ

หนึ่งในสไตล์บ้านที่ถูกหยิบขึ้นมาสรรค์สร้างเป็นที่อยู่อาศัยมากที่สุดในยุคนี้ ก็ต้องมีชื่อของ Modern Classic ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงครับ โดยจุดแข็งของการแต่งบ้านสไตล์นี้ก็คงเป็นการนำความคลาสสิค ของศิลปะหรือสถาปัตยกรรมที่มีอยู่จริงจากสถานที่ต่างๆ มาผสมผสานเข้ากับความเรียบหรู ทำให้บ้านถูกออกแบบมาโมเดิร์นและก็ล้ำยุคอย่างลงตัว ตัดทอนลวดลายต่างๆ ปรับรูปร่างให้ดูเรียบง่ายขึ้น ตามแบบฉบับของการตกแต่งแบบ Modern Classic

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เกิดการสร้างบ้านหรือตกแต่งในสไตล์ Modern Classic นั่นก็คือ “แรงบันดาลใจ” โดยที่อยู่อาศัยสไตล์ Modern Classic นั้น มักจะนำแรงบันดาลใจจากงานศิลปะ หรือสถาปัตยกรรมที่มีอยู่จริงในยุโรป ที่ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ โดยตัดลวดลายที่ดูยุ่งเหยิงออก ผสานเข้ากับความเรียบง่ายของศิลปะสมัยใหม่ ทำให้เกิดเป็นความร่วมสมัยที่ไม่ตกยุค เรียบหรู ดูดี ผ่านความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ออกมาเป็นแบบบ้านสไตล์ Modern Classic ที่ทั้งสวยสง่าและสมบูรณ์แบบ

การตกแต่งที่อยู่อาศัยในสไตล์ Modern Classic ถือเป็นหนึ่งในการถ่ายทอดความงามร่วมสมัยที่ดูไม่ตกยุค พร้อมทั้งบ่งบอกตัวตนและรสนิยมที่เหนือระดับของผู้อยู่อาศัยในทุกองค์ประกอบการตกแต่งครับ โดยเป็นการนำความคลาสสิคของสถาปัตยกรรมยุโรป มาผสมผสานกับความเรียบหรู และไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันอย่างลงตัว โดยการตกแต่งสไตล์นี้จะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก เนื่องจากเป็นการตัดสิ่งที่ทำให้ดูยุ่งเหยิงออกไปจากการออกแบบ คงไว้ด้วยความเรียบง่ายแต่ดูสวยงามและเป็นระเบียบ จากเส้นสายที่ต่อเนื่องกัน เพื่อคงความงามแบบคลาสสิคไว้ในการออกแบบ และช่วยยกระดับภาพลักษณ์ให้บ้านดูสวยสง่าและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นครับ

ในการตกแต่งบ้านสไตล์ Modern Classic นั้น นอกจากเพิ่มความสวยงามและความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับบ้านแล้ว ยังทำให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านนั้นดูหรูหรามากขึ้นด้วยครับ เป็นหนึ่งในการตกแต่งที่สามารถยกระดับภาพลักษณ์ของบ้านให้ดูดีขึ้นได้มากเลยทีเดียว

.

เทรนด์การแต่งบ้านในปัจจุบันนี้มีความหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ โดยมาจากอิทธิพลที่รับมาจากฝั่งตะวันตก อย่างเช่น สถาปัตยกรรม ศิลปะ การใช้ชีวิต การแต่งบ้านสไตล์ “Modern Classic” เป็นหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะด้วยความมีเสน่ห์ในตัว มีความงามของความคลาสสิก แต่ยังคงให้กลิ่นความโมเดิร์นตามยุคสมัยอย่างพอดี ทำให้หลายๆ คนถูกใจการแต่งบ้านสไตล์ Modern Classic ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะทำให้บ้านเรียบหรูแล้ว ยังกำเนิดเป็นลักษณะเด่นด้วยการตกแต่งบางสิ่งที่มีอย่างน่าพอใจ ทำให้การตกแต่งสไตล์ Modern Classic นั้นเป็นการตกแต่งที่ร่วมยุคที่ลงตัวกับยุคสมัยได้อย่างสิ้นเชิงครับ