Blog

7 มาตรการ…รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

การคำนึงถึงความปลอดภัย ของการอยู่อาศัยของลูกบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ที่โครงการ “VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34”  ให้คุณได้สัมผัสกับมาตรฐาน การดูแลความปลอดภัยรอบโครงการ ให้คุณอุ่นใจในทุกช่วงเวลาที่อยู่บ้าน ตลอด 24 ชั่วโมง กับระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบครัน

วันนี้จะพาคุณไปรู้จัก กับระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ จากทางโครงการ VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34 จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยครับ

“ CCTV Around Project ” 

ติดตั้งระบบ CCTV ดูและความเรียบร้อยรอบโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยสังเกตการณ์ ดูแลความเรียบร้อย ภายในโครงการตลอด 24 ชั่วโมง

“ SECURITY GUARD 24HR. ” 

มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยตรวจบริเวณรอบโครงการ และเฝ้าระวังเหตุต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความปลอดภัยและลูกบ้านอย่างใกล้ชิด

“ SMOKE / HEAT DETECTOR ” 

ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟและความร้อน เพื่อป้องกันเหตุเกี่ยวกับไฟไหม้ และความร้อนภายในบ้าน โดยแจ้งเตือนผ่านแอพพลิเคชั่นหากความร้อนสูงเกินอุณหภูมิที่ตั้งไว้ เพิ่มความสะดวกสบาย ในการตรวจเช็คปัญหาเบื้องต้นด้วย

“ MAGNETIC SENSOR (Window / Door) ” 

ติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยแบบไร้สาย โดยเป็นระบบตรวจจับอัตโนมัติ ติดตั้งที่บริเวณประตูและหน้าต่าง ป้องกันการงัดแงะจากภายนอก โดยมีการแจ้งเตือนผ่านแอพพลิเคชั่น

“ SHOCK SENSOR ” 

ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับการสั่นสะเทือน โดยจับการสั่นไหวของตัวบ้านหรือ ประตู หน้าต่าง ที่อาจจะเกิดจากการถูกงัดแงะหรือการทุบ โดยจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้ผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ได้รับรู้ผ่านแอพพลิเคชั่น


“ OUTDOOR IP CAMERA ” 

ติดตั้ง IP CAMERA ภายนอกตัวบ้าน ใช้ตรวจจับความเคลื่อนไหวภายนอก โดยตัวกล้องออกแบบมาให้ทนกับสภาพอากาศ ป้องกันฝุ่นและฝน สามารถมองเห็นในช่วงเวลากลางคืนได้ไกล 30 เมตร 

“ FRONTGATE SECURITY ” 

ติดตั้งประตูรั้วทางเข้าของแต่ละซอย พร้อมรีโมทอัตโนมัติทุกหลัง เพิ่มความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน ที่อาศัยอยู่ภายในโครงการ

HYBRID WORKING กับยุค NEW NORMAL

ในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา เราจะได้เห็นการปรับตัวและรูปแบบการทำงาน จากทางองค์กรหรือตัวพนักงานเอง เนื่องจากสถานะการณ์ COVID-19 นั้นส่งผลกระทบอย่างเป็นวงกว้างในหลายๆ ด้าน ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและการใช้ชีวิต จากเดิมที่ต้องทำงานแต่ที่ออฟฟิศ ก็ปรับเปลี่ยนให้ทำงานจากที่บ้าน หรือสถานที่อื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ จึงเกิดเทรนด์การทำงานแบบ HYBRID WORKING ขึ้นมา

HYBRID WORKING คืออะไร และอะไรที่เป็นปัจจัย ที่ทำให้เกิดเทรนด์การทำงานรูปแบบนี้ขึ้นมา วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณครับ

“ HYBRID WORKING ” คือ รูปแบบการทำงาน ที่ตัวพนักงานสามารถเลือกที่ทำงาน ได้อย่างมีอิสระ ไม่ว่าจะเป็นทำงานจากที่บ้าน หรือตามสถานที่อื่นๆ แทนการทำงานที่ออฟฟิศแห่งเดียว เมื่อตัวพนักงานมีอิสระในการทำงานมากขึ้น ก็ส่งผลให้งานออกมามีประสิทธิภาพ และทำให้เกิดผลผลิตที่สูงขึ้น ภายใต้นโยบายการทำงานแบบ Flexible Working Policy

ปัจจัยรอบด้านที่ทำให้เกิด “Hybrid Working” ขึ้นมา และได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน อย่างแรกก็คือ การปรับตัวของบริษัทชั้นนำของต่างประเทศ ที่มีการปรับรูปแบบการทำงาน อย่างเช่น Google หรือ Facebook ที่เริ่มปรับตัวเป็น Hybrid Working ซึ่งเป็นตัวอย่างให้องค์กรต่างๆ เริ่มมีการปรับตัวตามมากขึ้น ปัจจัยต่อมาก็เกิดจากการที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องปรับเป็นการทำงานจากที่บ้าน หรือสลับกันเข้ามาที่ออฟฟิศ เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด ป้องกันความเสี่ยงของการแพร่กระจายโรค ปัจจัยสุดท้ายก็คือตัวพนักงาน ที่ถูกปรับรูปแบบการทำงาน แต่ยังคงคุณภาพและประสิทธิภาพไว้ได้อย่างดี หรืออาจจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการมีอิสระในการทำงาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ภายใต้นโยบาย Flexible Working Policy ด้วย

ประโยชน์ของรูปแบบการทำงาน “Hybrid Working” มีอยู่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น 

  • พนักงานมีอิสระกับการทำงานมากขึ้น จะช่วยดึงศักยภาพและประสิทธิภาพ ในการทำงานให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
  • ดึงดูดคนรุ่นใหม่ๆ ที่มากความสามารถให้อยากร่วมงานกับองค์กรมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานของคนรุ่นใหม่ จะค่อนข้างชอบความอิสระ ชอบใช้เทคโนโลยีและความทันสมัย เป็นตัวช่วยในการทำงาน
  • องค์กรเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบ Flexible Workplace มากขึ้น ส่งเสริมการทำงานในรูปแบบ Hybrid ส่งผลให้การทำงานของพนักงานดียิ่งขึ้น
  • Hybrid Working ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 และยังทำให้องค์กรดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในช่วงที่มีโรคระบาด
  • ลดค่าใช้จ่ายลงได้ จากการทำงานแบบ Hybrid ทั้งค่าใช้จ่ายขององค์กร หรือค่าใช้จ่ายของพนักงานเองก็ตาม

ในบริษัทชั้นนำ จะให้อิสระกับพนักงานในการเลือก ที่จะเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศเมื่อไหร่ก็ได้ และตัวองค์กรก็สามารถ ปรับลดพื้นที่โต๊ะทำงาน เป็นโต๊ะส่วนกลางแทน เป็นการช่วยลดพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นได้ โดยพนักงานที่จะเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ ก็สามารถใช้โต๊ะส่วนกลางได้ด้วย ซึ่งออฟฟิศชั้นนำในประเทศไทย ก็เริ่มมีการปรับพื้นที่ทำงานเป็นในรูปแบบ Co-Working Space มากขึ้น เช่น Google, Wongnai และออฟฟิศอื่นๆ อีกมากมาย

หากองค์กรเริ่มปรับตัวเป็น “Hybrid Working” ก็ควรกำหนดนโยบาย Flexible Working Policy ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้พนักงานได้เข้าใจและปฏิบัติตาม เพื่อให้ยังคงการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไว้ แม้ไม่ได้เข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ รวมถึงการติดต่อประสานงานต่างๆ ด้วย การกำหนดนโยบายจะช่วยให้ ระบบการทำงานต่างๆ ยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างไม่มีติดขัด หากต้องทำงานรูปแบบ Hybrid ในระยะยาว ก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

“ ปัจจัยหลัก & ตัวเร่ง ” ที่ทำให้เกิดการปรับตัว ในองค์กรต่างๆ มากขึ้นในปัจจุบันนั้น ก็คือการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่กระทันหัน และบริษัทต่างๆ ยังคงต้องดำเนินธุรกิจให้ไปต่อ เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวกระตุ้น ให้องค์กรต้องหันมาปรับเปลี่ยนการทำงานใหม่ โดยเริ่มจากการทำที่บ้าน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดค่อนข้างสูง และปรับเปลี่ยนเป็นการผสมผสานข้อดี ของการทำงานจากที่บ้าน และการเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศเข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็นการทำงานแบบ Hybrid Working Model นั่นเองครับ

“VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34” อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในทุก Generation

เจเนอเรชั่นเป็นปัจจัยหนึ่งของการอยู่อาศัยร่วมกัน ด้วยการเติบโตมาในยุคที่แตกต่าง ย่อมมีไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตมาไม่เหมือนกัน บางครอบครัวนั้นมีสมาชิกอาศัยร่วมกันถึง 4 เจเนอเรชั่น การปรับตัวให้อยู่อาศัยร่วมกันได้ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสำคัญ บ้านและพื้นที่จึงเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเป็นพื้นที่ที่จะต้องแชร์และใช้เวลาร่วมกัน การเลือกบ้านที่ดีและมีพื้นที่ที่ตอบโจทย์ สำหรับทุกเจเนอเรชั่น ก็ถือเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีไม่น้อย ที่โครงการ “VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ออกแบบพื้นที่และแบ่งสัดส่วน เพื่อรองรับการอยู่อาศัยของทุกเจเนอเรชั่น ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขครับ

ความแตกต่างของแต่ละเจเนอเรชั่นนั้น อาจจะพบเจอได้เกือบจะในทุกๆ ครอบครัว ด้วยความแตกต่างของยุคสมัย การดำเนินชีวิต ทำให้แต่ละเจเนอเรชั่น มีความต้องการแตกต่างกันอย่างชัดเจน หากต้องอยู่อาศัยร่วมกันก็คงต้องมีการปรับจูนเข้าหากันมากขึ้น ซึ่งเจเนอเรชั่นในปัจจุบันก็แบ่งออกได้เป็น 

  • Baby Boomer กลุ่มคนวัยเกษียณ อยู่ในช่วงเวลาของการพักผ่อน อยากใช้เวลาอยู่กับลูกหลานและคนในครอบครัว 
  • Gen X ใช้ชีวิตที่คล้ายกับ Baby Boomer มีความอดทน ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นไปได้จริง มุ่งมั่นทำงานหนัก มั่นใจในตนเอง คาดหวังต่อการประสบความสำเร็จสูง
  • Gen Y  เกิดมาพร้อมไลฟ์สไตล์เต็มไปด้วยเทคโนโลยี เต็มเปี่ยมด้วย Passion มีความคิดนอกกรอบ มีความสร้างสรรค์และท้าทาย ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง
  • Gen Z เกิดมาท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกรอบตัว ใช้เวลาอยู่กับโลกออนไลน์ และรับข่าวสาผ่านอินเตอร์เน็ต เปิดกว้างทางความคิด เปิดรับความแตกต่าง ชอบอะไรที่รวดเร็ว ทั้งการใช้ชีวิตและการประสบความสำเร็จ

“Family Space” ฟังก์ชั่นหลักที่สำคัญมากสำหรับครอบครัว เป็นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยเพื่อให้ครอบครัว ได้มาใช้เวลาและทำกิจกรรมร่วมกัน โดยโครงการ VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34 นั้น ได้มีการออกแบบพื้นที่เชื่อมต่อกัน ตั้งแต่โซนพื้นที่ Living Area, โซนรับประทานอาหาร, พื้นที่จัดเตรียมอาหาร รวมไปถึงโซนครัว เป็นแบบ Open Space ที่รองรับได้ทุกกิจกรรมของครอบครัวครับ

“Personal Space” หนึ่งในพื้นทีที่จะขาดไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ ‘พื้นที่ส่วนตัว’ ของแต่ละ Gen เพราะภายในบ้านแต่ละคนก็มีงานอดิเรก หรือกิจกรรม การพักผ่อนที่แตกต่างกันออกไป ทาง VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34 เอง ก็ออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนตัวมาอย่างครบถ้วน โดยมีพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่มาให้ สามารถแบ่งได้ถึง 3-4 ห้องนอน และยังมีพื้นที่ Multipurpose ที่รองรับการขยับขยายในอนาคตด้วยครับ

และนี่ก็คือตัวอย่างการปรับฟังก์ชั่นของบ้าน จากพื้นที่ห้องนอนให้เป็น Activity Space เป็นอีกหนึ่งพื้นที่กิจกรรมของครอบครัว โดยสามารถปรับเป็นห้องโฮมเธียเตอร์ สำหรับมาทำกิจกรรม ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม พร้อมๆ กันทั้งครอบครัวได้ หรืออาจจะปปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้ เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ชั้นบนของตัวบ้านครับ หากมีการรับแขกที่ชั้นล่าง สมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว ก็สามารถมาใช้งานห้องนั่งเล่นที่มุมนี้ได้ครับ 

สวนลอยฟ้า “Rooftop Garden” เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ Outdoor การทำสวนลอยฟ้าจึงเหมาะมากๆ โดยฌฉพาะคนที่ชอบปลูกต้นไม้ สามารถใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้อย่างเต็มที่ และพื้นที่นี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ของแต่ละครอบครัวอีกด้วย สามารถจัดทำเป็นพื้นที่ปาร์ตี้เล็กๆ สำหรับกลุ่มเพื่อน หรือไว้สำหรับจัดงานสังสรรค์กันในครอบครัว หรือจะจัดทำเป็นลานซักล้างก็ยังได้ครับ

รวมคอนเทนต์จาก “NETFLIX” เติมไอเดียการตกแต่งบ้าน

? หนึ่งในบริการสตรีมมิงยอดนิยม ที่รวบรวมคอนเทนต์ที่น่าสนใจไว้มากมายนั่นก็คือ “Netflix” ซึ่งเป็นสื่อเพื่อความบันเทิง มีหนัง ซีรีย์ รายการ สารคดีต่างๆ มากมาย รวมอยู่ในแพลตฟอร์มนี้ วันนี้เราก็จะพามาดู คอนเทนต์ที่จะช่วยเพิ่มเติมไอเดีย สำหรับคนอยากแต่งบ้าน หรือกำลังหาไอเดีย เพื่อขยับขยายพื้นที่ในบ้านใหม่ จากสตรีมมิงยอดนิยมอย่าง Netflix กันครับ จะมีรายการหรือซีรีย์อะไรน่าสนใจบ้าง ไปชมพร้อมกันเลยครับ ?

“ Tidying Up with MARIE KONDO ” จัดบ้านเปลี่ยนชีวิตกับ “ มารีเอะ คนโด ” ผู้ที่จะมาแนะนำเคล็ดลับการจัดบ้านที่เรียบง่าย ทรงพลัง และมีหลักจิตวิทยารองรับ ซึ่งไม่เพียงช่วยให้บ้านของคุณหายรกแบบถาวร หลังจากลงมือจัดบ้านแค่ครั้งเดียว แต่ยังช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นในทุกๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การเรียน ความสัมพันธ์ ไปจนถึงสุขภาพ แล้วคุณจะพบว่าแค่จัดวางข้าวของในบ้านให้เข้าที่ สิ่งดีๆ ก็จะวิ่งเข้ามาในชีวิตคุณครับ

“ The World’s Most Extraordinary Homes ” หนึ่งในสารคดีที่คนรักบ้านจะพลาดไปไม่ได้เด็ดขาด เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เรา จะสามารถเพลิดเพลินไปกับการตกแต่งบ้านได้ เพราะเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของบ้านที่ไม่มีคำว่าธรรมดา แต่มีการเพิ่มความพิเศษด้วยแพชชัน แรงบันดาลใจ และความท้าทายของการออกแบบโครงสร้างสถาปัตยกรรม โดยเล่าเรื่องราวผ่าน เพียร์ส เทย์เลอร์ สถาปนิกดีกรีรางวัล และแคโรไลน์ เควนติน นักแสดงผู้หลงใหลในด้านอสังหาริมทรัพย์

“ Interior Design Master ” หนึ่งในทีวีเรียลลิตี้การแข่งขัน ที่อยากจะแนะนำให้ดูก็คือ Interior Design Masters ครับ เป็นการแข่งขันของผู้ฝันอยากเป็นนักตกแต่งภายใน และช่วงชิงโอกาสเซ็นสัญญาเปลี่ยนชีวิตกับโรงแรมชั้นนำของลอนดอน โดยมีโจทย์การแข่งขันที่แตกต่างกันไปในแต่ละตอน แต่มีเป้าหมายหลักเพื่อการพลิกโฉมบ้าน หรือห้องที่แสนน่าเบื่อให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นอกจากรูปแบบการแข่งขันที่สนุกเข้มข้น ยังมาพร้อมไอเดียการแต่งบ้านสุดเจ๋ง เพื่อให้เรานำมาปรับใช้กับบ้านของเราได้ด้วยครับ

“ STAY HERE ” ท่องเที่ยว ออกแบบ ลิ้มลอง ทำกำไร คือคำนิยามของรายการวาไรตี้นี้ครับ โดยรายการมีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ มาจากผู้เชี่ยวชาญด้านออกแบบและตกแต่งภายใน และผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยมีแนวคิดในการเปลี่ยนที่พักอาศัย ให้สามารถทำกำไร สร้างรายได้ให้กับเจ้าของ  ตัวอย่างเช่น Platform Airbnb โดยรูปแบบรายการจะเป็นการไปยังบ้านหลังต่างๆ ที่มีปัญหาในเรื่องต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์หรือรูปแบบการจัดการธุรกิจ โดยเปลี่ยนจากที่พักดาวเดียว ยกระดับให้เป็นดั่งที่พักระดับ 5 ดาว ที่สามารถสร้างกำไรและความรู้สึกดีๆ กับเจ้าของบ้านได้ ผ่านการดีไซน์

“ Amazing Interiors ” รายการแต่งบ้านที่ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบการตกแต่งภายใน เพราะรายการนี้เต็มไปด้วยไอเดียการตกแต่งภายในมากมาย โดยมีแรงบันดาลใจจากสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ในฝัน สัตว์โปรด สีที่ชอบ หรือแม้แต่ภาพยนตร์สยองขวัญ ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นบ้านที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำกับใครๆ 

How to “แต่งบ้าน” โดยไม่ต้องเจาะกำแพง

หนึ่งปัญหาหนักใจของคนแต่งบ้าน นั่นก็คือขั้นตอนการติดตั้ง ซึ่งสิ่งของหลายอย่างนั้นจะต้องมีการเจาะ ทุบ ตอก ทิ้งร่องรอยไว้บนผนังบ้าน แต่ปัจจุบันก็มีสิ่งของ หรือวิธีการติดตั้งแบบใหม่เกิดขึ้น แถมยังไม่ทิ้งร่องรอยความเสียหายให้กับผนังบ้านด้วย นั่นก็คือการใช้กาวคอมมานด์ที่มีความทนทานสูง เป็นที่ยึดติดสิ่งของแทน ซึ่งวันนี้เราก็นำไอเดียการแต่งบ้านแบบไม่ต้องเจาะผนังบ้านมาฝากกันครับ

สำหรับคนที่มีที่เก็บของภายในบ้านไม่เพียงพอ และต้องการมีที่เก็บหรือวางของเพิ่มเติม ลองใช้ไอเดียการแต่งผนัง เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน ด้วยชั้นวางของขนาด 30-60 ซม. ยึดติดกับผนังด้วยกาวคอมมานต์ ไอเดียนี้เหมาะสำหรับการใช้วางของชิ้นเล็กๆ ไม่ใหญ่จนเกินไป ช่วยจัดระเบียบสิ่งของภายในบ้านได้ดี และยังช่วยเพิ่มความน่าอยู่ให้มากขึ้นด้วยครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่มักจะต้องตอกที่ยึด เพื่อแขวนไว้กับผนังบ้านก็คือกรอบรูป เราก็สามารถปรับเปลี่ยนจากการตอก เป็นการใช้เทปหนามเตยมายึดมุมด้านหลังกรอบรูป แทนการตอกตะปูเพื่อยึดติดกับผนัง ซึ่งหากใช้วิธีนี้เราก็สามารถลอกออก และเคลื่อนย้ายกรอบรูปได้นั่นเองครับ

หากคุณมีสิ่งของมากมายที่อยากจะแขวนให้เข้าที่เข้าทาง ไม่วางรกเกะกะพื้นที่ในบ้าน การใช้ที่แขวนของแบบยึดติดผนัง หรือแบบลอยตัว ก็จะช่วยจัดระเบียบสิ่งของเหล่านั้นได้ ซึ่งสิ่งของเล็กน้อย เช่น กระเป๋า พวงกุญแจ ก็สามารถแขวนกับผนังได้ ส่วนเสื้อผ้า เสื้อคลุม หมวก ก็หาที่แขวนแบบลอยตัวมาวางไว้มุมหนึ่งของบ้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และความเป็นระเบียบเรียบร้อยครับ

การติดตั้งผ้าม่านในปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป หากมีราวผ้าม่านที่ฐานเรียบ สามารถใช้เทปกาวสำหรับยึดติดผนังได้ ก็สามารถทดแทนการเจาะรูเพื่อยึดไปได้ และถ้าหากวัดแล้วความสูงไม่เท่ากัน ยังสามารถแกะออกเพื่อติดเข้าไปใหม่ได้ด้วย ซึ่งวิธีนี้ก็เหมาะกับคนที่เปลี่ยนผ้าม่านออกมาทำความสะอาดบ่อยๆ ด้วยครับ

แสงไฟตกแต่งบ้านแบบไม่ต้องเจาะฝ้า ไม่ต้องตอกผนังให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงแค่ใช้ไฟ LED แบบเส้นยาว หรือแบบที่เป็นแผงสำเร็จรูปมาติดไว้กับผนังบ้าน ในจุดที่ต้องการแสงสว่าง เท่านี้ก็จะได้ความสว่างและความสวยงาม ความเรียบร้อยแล้วครับ เป็นการช่วยเพิ่มมิติให้กับบ้านอีกหนึ่งวิธีครับ

Home Office แนวคิดใหม่… รองรับการอยู่อาศัยและทำธุรกิจ

ปัจจุบันเทรนด์ออฟฟิศแนวใหม่ จะมีความหลากหลายตามรูปแบบการทำธุรกิจ รวมถึงพฤติกรรมคนยุคใหม่ ซึ่งมุมมองการทำงานคนยุคนี้ มีแนวโน้มหันมาเป็นฟรีแลนซ์ หรือเป็นเจ้านายตัวเองมากขึ้น เพราะมองว่าตอบโจทย์การใช้ชีวิต และประสบความสำเร็จได้เร็วกว่า จึงต้องการสถานที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่นสูงและตอบโจทย์ Home Office จึงเป็นตัวเลือกที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในปัจจุบัน ซึ่งเหตุผลที่ Home Office เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม จะมีเหตุผลอะไรบ้าง เราไปรับชมกันเลยครับ

เหตุผลที่ทำให้ Home Office กลับมาบูมอีกครั้ง ก็คงเป็นเพราะธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมาในปัจจุบันค่อนข้างเยอะ เมื่อธุรกิจต่างกำลังอยู่ในช่วงขยายตัว ทำให้ความต้องการของพื้นที่ออฟฟิศก็มีมากขึ้น แต่ธุรกิจรูปแบบใหม่นั้นก็มักจะไม่ต้องการพื้นที่มากมายเท่ากับสำนักงานในเมืองเท่าไรนัก และยังไม่ต้องการลงทุนเช่าสำนักงานในราคาสูงด้วย หลายๆ ธุรกิจจึงเปลี่ยนมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทโฮมออฟฟิศแทน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ไม่เสียเปล่า เพราะตัวโฮมออฟฟิศก็จะกลายเป็นสินทรัพย์ของบริษัทไปด้วยนั่นเองครับ

พอพูดถึงเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่าง Home Office ก็ต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ตั้งด้วย เนื่องจากทำเลเป็นส่วนสำคัญในเรื่องของราคา ที่จะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับทำเลนั้นๆ ว่าภายในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันหรือไม่ หรือเป็นทำเลที่กำลังพัฒนาไปได้อีกมากน้อยเพียงใด ซึ่งการพัฒนาก็สามารถติดตามจากข่าวการเกิดขึ้นของโปรเจคใหม่ การสร้างรถไฟฟ้าตัดผ่านเส้นทาง หรือปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกับทำเล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเหตุผลในการเลือกที่ตั้งของออฟฟิศของเราด้วย และที่สำคัญฟังก์ชันของ Home Office ที่เลือก จะต้องตอบโจทย์ได้ทั้งการเดินทาง ทำงาน และอยู่อาศัยครับ

และเมื่อมี Home Office ที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและการอยู่อาศัยแล้ว ก็จะช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปทำงาน ทำให้มีเวลาในการพักผ่อนหรือให้เวลากับกิจกรรมอื่นๆ ได้มากขึ้น เป็นการสร้างสมดุลให้กับชีวิต ทั้งในแง่ของการทำงานและการพักผ่อน โดยการทำงานก็อาจจะมีสมาธิมากขึ้น เพราะบรรยากาศโดยรอบจะเงียบสงบกว่าออฟฟิศในตัวเมือง ทำให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพมากที่สุด หลังจากเสร็จงานก็ยังมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น สามารถพักผ่อนทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ออกกำลังกาย เรียนรู้ทักษะใหม่ สร้างรายได้เสริมอื่นๆ ได้อีกด้วยครับ

ฟังก์ชันการออกแบบของ Home Office มักมีการออกแบบฟังก์ชันที่เหมาะกับบรรยากาศการทำงาน เช่น การจัดสรรพื้นที่นั่งทำงาน ห้องประชุม พื้นที่สำหรับพักอาศัย โดยเราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อรองรับการขยับขยายในอนาคตได้ แต่หนึ่งปัญหาที่สำคัญของออฟฟิศสมัยนี้ คือที่จอดรถที่ไม่เพียงพอสำหรับลูกค้าและพนักงาน ซึ่งโฮมออฟฟิศมักจะคิดตรงจุดนี้ไว้แล้ว จึงออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับจอดรถไว้อย่างพอเพียงกับความต้องการ ทำให้โฮมออฟฟิศถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัย และการเริ่มทำธุรกิจของตัวเองมากๆ ครับ

หนึ่งในทำเลที่ครบครันสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ เริ่มลงทุนซื้อ Home Office เพื่อทำงานและอยู่อาศัย นั่นก็คือทำเล “เกษตร-นวมินทร์” โดยโครงการที่แนะนำนั่นก็คือ “Biz Gallerie นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์” ที่ตั้งอยู่ติดถนนนวลจันทร์ เดินทางเข้าออกสะดวก บริเวณโดยรอบยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ใกล้กับเซ็นทรัลเฟสติวัลอีสต์วิลล์ CDC เดอะวอร์คเกษตรนวมินทร์ รวมไปถึงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ใช้เชื่อมต่อเข้าออกโซนเมืองและโซนอื่นๆ เชื่อมต่อเข้าสู่เอกมัย-พระราม 9 เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แม้ว่าจะเป็น Home Office ที่ตั้งอยู่บนทำเลใกล้เมือง ก็มีดีไม่แพ้ออฟฟิศใจกลางเมืองแน่นอน

—————————————————————-

BIZ GALLERIA นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ Office Residence 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 475 ตร.ม. ปรับสมดุลชีวิตทำงานและครอบครัวที่ลงตัวด้วยโฮมออฟฟิศ #พื้นที่ใช้สอยใหญ่สุดบนถนนเกษตรนวมินทร์ แบ่งสัดส่วนพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนตัวสำหรับอยู่อาศัย มาพร้อมที่จอดรถ 6 คัน ทำเลทองของคนทำธุรกิจ

BIZ GALLERIA “KNOCK OUT DEAL” | 2 ยูนิตสุดท้าย รับส่วนลด 2,000,000 ล้าน*

จากราคา 20.23 ล้าน เหลือเพียง 18.23 ล้าน*

? ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษทันที คลิก ➤ http://bit.ly/2OYGhla 

——————————————————- 

?สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

โทร. 02-946-1556 

รายละเอียด: http://bit.ly/2OYGhla 

แผนที่ https://goo.gl/maps/ywUMb8Zwc542 

1 วัน กับย่าน “พระราม 3 – สาธุประดิษฐ์”

“ พระราม 3 – สาธุประดิษฐ์ ” ย่านที่ถูกยกเป็นหนึ่งในย่านที่เงียบสงบ เดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวกสบาย การจราจรไม่แออัด และมีสถานที่พักผ่อนกระจายตัวอยู่ค่อนข้างมาก รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นตามกาลเวลาด้วย ทำให้ย่านพระราม 3 – สาธุประดิษฐ์ มีความน่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยวันนี้เราจะพาไปใช้ชีวิต 1 วัน กับย่าน “ พระราม 3 – สาธุประดิษฐ์ ” กันครับ

เริ่มต้นวันกับชีวิตการทำงาน ซึ่งถ้าเราอาศัยอยู่ในโซนพระราม 3 – สาธุประดิษฐ์ ที่เป็นทำเลใกล้ใจกลางเมือง เราค่อนข้างที่จะเดินทางมาทำงานหรือประชุมงาน ในโซน CBD อย่างสีลม – สาทร ค่อนข้างสะดวกสบาย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเข้ามาถึงโซนนี้ได้แล้ว ซึ่งโซนนี้ก็จะมีอาคารสำนักงานหรือ Co-Working อยู่มากมาย ถ้าหากทำงานโซนนี้แล้วมีที่อยู่อาศัยโซนพระราม 3 – สาธุประดิษฐ์ ต้องบอกว่าสะดวกสบายมากๆ

หลังจากเสร็จงานหรือธุระสำคัญในโซนเมืองแล้ว อยากจะหาสถานที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ก็เดินทางกลับออกมาที่โซนพระราม 3 กันครับ ซึ่งแลนด์มาร์คของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้น “เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม3” ไลฟ์สไตล์มอลล์ที่ครบครัน ทั้งความบันเทิง สินค้า และบริการต่างๆ ซึ่งผู้คนในย่านนี้มักจะเดินทางมาใช้บริการกันที่นี่อยู่แล้ว ซึ่งตัวห้างสรรพสินค้าเอง ก็มีการพัฒนาตามยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา ทำให้เซ็นทรัลฯ แห่งนี้ ยังคงเป็นจุดรวมตัวของคนในพื้นที่นี้อยู่ตลอด

และถ้าหากมีเวลาว่างๆ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าทำในย่านนี้เลยก็คือ การหาสถานที่เดินดูงานศิลปะครับ เพราะในพื้นที่โซนนี้มักมีจุดรวบรวมงานศิลปะร่วมสมัยอยู่ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะที่นี่ N22 Art Community เป็นพื้นที่ที่ปรับปรุงจากโกดังให้เป็นพื้นที่ศิลปะ ที่เปิดให้คนที่สนใจเข้ามาร่วมสร้างสรรค์ศิลปะใหม่ๆ ร่วมกัน โดยปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้ก็มีสเปซงานศิลปะถึง 9 สเปซด้วยกัน ซึ่งแต่ละอาร์ตสเปชก็จะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป หากใครชอบเดินมิวเซียม เดินชมงานศิลปะอยู่แล้ว ที่นี่ก็เป็นจุดที่น่าสนใจเช่นกันครับ

อีกหนึ่งสถานที่ที่รวบรวมงานสร้างสรรค์ประติมากรรมปูนปั้นร่วมสมัย ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่สำหรับสถานที่เกี่ยวกับศาสนาพอสมควร ซึ่งก็เป็นความตั้งใจของทางตัววัดปริวาสฯ ที่ต้องการให้อุโบสถมีคุณค่าและมีความแปลกใหม่ โดยถ่ายทอดผ่านฝีมือช่างปูนปั้นของไทย นอกจากมีเวลาเดินชมประติมากรรมปูนปั้นแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดที่ผู้คนนั้นชอบมาให้อาหารปลา ที่มารวมกันอยู่บริเวณวังปลาเฉลิมพระเกียรติด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนที่สามารถมาได้ทุกโอกาส

สำหรับการพักผ่อนช่วงเย็นๆ ก็คงต้องเป็นที่ ASIATIQUE The Riverfront เดินทางจากพระราม 3 เข้าถนนเจริญกรุงไม่ไกล ก็จะพบชิงช้าสวรรค์เป็นจุดเด่นในช่วงถนนเจริญกรุงนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้คนมากมายต่างเดินทางมาพักผ่อน เพราะที่นี่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร บริการ และความบันเทิงค่อนข้างครบครัน แถมบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตก แสงแดดอ่อนๆ ก็เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยครับ

และแลนด์มาร์คใหม่ประจำ ASIATIQUE นั่นก็คือ ห้องอาหารเรือสิริมหรรณพ ที่ตั้งอยู่ที่ท่าเรือของ ASIATIQUE นี้เอง เหมาะกับการมาทานอาหารมื้อค่ำ มานั่งชิลพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะมาแบบครอบครัว หรือมาเป็นคู่รัก มากับกลุ่มเพื่อน ที่นี่ก็มีโซนที่เหมาะสำหรับทุกกลุ่มเลยครับ ซึ่งบนเรือสิริมหรรณพนั้นก็มีบริการทั้งบาร์ระดับพรีเมียม ห้องอาหาร บริการโดยโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ซึ่งถ้าหากอยากได้ที่นั่งวิวหันออกริมน้ำ แนะนำให้สำรองที่นั่งกันมาก่อนนะครับ

โครงการ “VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34” Luxury Townhome บนทำเลพระราม 3 – สาธุประดิษฐ์ ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่ใช้สอย ที่ให้ได้มากถึง 400 ตร.ม. รองรับการขยับขยายครอบครัวได้เป็นอย่างดี ตั้งอยู่บนทำเลคุณภาพ รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สถานศึกษาชั้นนำ และโรงพยาบาล ยังเดินทางสะดวกสบาย ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน เชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS ถ้าหากคุณกำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ชีวิตอย่างรอบด้าน โครงการ VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34 จะเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของคุณ

สรุปโดยย่อของย่าน “พระราม 3 – สาธุประดิษฐ์” เป็นทำเลที่ให้ความสะดวกสบาย ในการใช้ชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความเงียบสงบสูง ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่คนต้องออกไปทำงานหรือช่วงเลิกงาน การจราจรก็จะมีความติดขัดบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากไม่ใช่จุดที่เป็นโซนสำนักงาน ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัย ถนนส่วนใหญ่เป็นเส้นทางสัญจรผ่านเพื่อเข้าสู่โซนสีลม – สาทร เท่านั้น ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน ในพื้นที่นี้มีห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล สถานศึกษาค่อนข้างครบครัน ถ้าหากใครกำลังมองหาที่อยู่อาศัย ย่านพระราม 3 – สาธุประดิษฐ์ ถือเป็นย่านที่เหมาะมากๆ สำหรับการอยู่อาศัยในระยะยาวครับ

“ASTIN SMARTHOME” นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย

“ ASTIN SMARTHOME ” แอพพลิเคชันที่รวบรวมนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่เพื่อการอยู่อาศัย ให้คุณอยู่บ้านได้อย่างสบายใจในทุกวัน จัดการทุกสิ่งได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของคุณทุกเรื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบการแจ้งเตือนผ่านแอพพลิเคชัน พร้อมทั้ง Fuction ต่างๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบัน

Gateway : อุปกรณ์กระจายสัญญาณ 

เกตเวย์เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง สำหรับใช้เชื่อมต่อและกระจายสัญญาณ ไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน อย่างเช่นอุปกรณ์ที่ใช้แอพพิเคชันในการสั่งงานเปิด/ปิด หรือการแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านตัวแอพพิเคชัน โดยตัวเกตเวย์นั้นติดตั้งง่าย แค่เชื่อมต่อผ่านสาย Lan ก็สามารถใช้งานได้แล้ว และตัวสัญญาณก็ครอบคลุมพื้นที่ได้ไกลถึง 30 ม. เลยครับ

Door/ Window Magnetic : อุปกรณ์แม่เหล็กติดประตู / หน้าต่าง

สวิตช์แม่เหล็กติดประตูหน้าต่าง ใช้ในการตรวจสอบการล๊อคประตู/หน้าต่าง ใช้สำหรับกันขโมยได้ และประยุกต์ใช้งานอื่นๆ ได้อีกด้วย ติดตั้งง่ายโดยนำสวิตช์แม่เหล็กไปติดที่ประตูหรือขอบหน้าต่าง สวิตช์แม่เหล็กจะส่งสัญญาณกันขโมย โดยแจ้งเตือนผ่านแอพพิเคชัน ใช้ตรวจสอบการปิดประตูหน้าต่างได้ ว่าปิดสนิทแล้วหรือยัง

Smoke / Heat Detector : เครื่องตรวจจับควัน / ความร้อน

เป็นอุปกรณ์สำหรับตรวจจับควันไฟ หรือตรวจจับความร้อนภายในบ้าน โดยอุปกรณ์จะทำงานเมื่ออุณหภูมิถึงจุดสูงสุดที่กำหนดไว้ โดยค่าตั้งต้นคืออุณหภูมิสูงเกิน 57.25 องศาเซลเซียส หรืออีกแบบหนึ่งคือ อุณหภูมิเพิ่มขึ้นทีละ 8.25 องศาเซลเซียส ระบบจะทำการแจ้งเตือนไปยังแอพพิเคชัน โดยอุปกรณ์จะตรวจจับควันและความร้อนแบบนาทีต่อนาที หากบ้านไหนติดตั้งอุปกรณ์ไว้ภายในห้องควัน แนะนำให้ปิดฟังก์ชันการตรวจจับควันไว้ เผื่อในกรณีที่ทำอาหารและเกิดควัน ระบบจะได้ไม่แจ้งเตือนบ่อยจนเกินไปครับ

Shock Sensor : ตรวจจับการสั่นสะเทือน

เป็นเซนเซอร์ไร้สาย สำหรับตรวจจับการสั่นไหวของตัวบ้าน ประตู หน้าต่าง เป็นระบบป้องกันแรงสะเทือน หรือเตือนแผ่นดินไหว โดยสามารถใช้งานร่วมกับแอพพิเคชัน เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าของบ้านรับรู้ และยังสามารถปรับตั้งค่าความไวการตรวจจับได้ถึง 3 ระดับ ต่ำ กลาง สูง และยังสามารถนำไปประยุกต์ในระบบกันขโมยได้อีกด้วย

Outdoor IP Camera : กล้องภายนอกอาคาร

กล้องวงจรปิดนอกตัวบ้าน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการตรวจสอบบริเวณภายนอกตัวบ้าน ได้จากระยะไกล สามารถดูภาพสดได้ผ่านแอพพิเคชัน โดยตัวอุปกรณ์มีเสาอากาศในตัว เพิ่มการเชื่อมต่อสัญญาณที่เสถียรยิ่งขึ้น ในเวลากลางคืนยังมีประสิทธิภาพในการมองเห็นสูงถึง 30 เมตร และมีคลาวด์เป็นแหล่งเก็บข้อมูลที่พร้อมใช้งาน โดยตัวอุปกรณ์ IP Camera นั้นถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานทุกสภาพอากาศ และยังป้องกันฝุ่นและฝนด้วยครับ

5 เคล็ดลับ แต่งห้องสำหรับผู้สูงอายุ

บ้านไหนที่มีสมาชิกเป็นครอบครัวใหญ่ หรือมีผู้สูงอายุภายในบ้าน การจัดห้องสำหรับผู้สูงอายุ ก็เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะด้านความปลอดภัย หรือความสะดวกสบายในการใช้ ซึ่งจริงๆ การจัดห้องผู้สูงอายุนั้นไม่ยากอย่างที่เราคิดกัน วันนี้เราก็มีทริคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการจัดห้องให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้สูงอายุกันครับ

“ ตำแหน่งของห้อง ” สำหรับบ้านของครอบครัวไหน ที่มีหลายชั้น แนะนำให้จัดทำห้องผู้สูงอายุไว้บริเวณชั้นล่างสุดของตัวบ้าน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน การเดินเข้าเดินออก และต้องไม่อยู่ในตำแหน่งที่ลึก หรือมีความซับซ้อนจนเกินไป เนื่องจากว่าหากเกิดกรณีฉุกเฉิน จะได้มีการช่วยเหลือและเข้าถึงได้ง่าย ภายในห้องควรมีพื้นที่กว้างขวางให้พอสมควร ไม่แคบจนเกินไป เพื่อรองรับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เช่น รถเข็น  อุปกรณ์ช่วยพยุงเดิน

“ พื้นเรียบเสมอกัน ” ในส่วนของพื้นห้องผู้สูงอายุนั้น ควรจะทำให้เรียบเสมอกัน ไม่ควรให้มีพื้นที่ต่างระดับ และเลือกใช้พื้นผิวที่ไม่ทำให้ลื่น เพื่อป้องกันการลื่นล้มหรือการเกิดอุบัติเหตุ โดยวัสดุปูพื้นควรเลือกใช้แบบพื้นผิวขรุขระ หรือที่มีการเซาะร่องกันลื่น ส่วนที่ต้องระมัดระวังมากที่สุดภายในห้อง ก็คือบริเวณห้องน้ำ เพราะเป็นส่วนที่โดนน้ำและทำให้เกิดการลื่นล้มได้ง่าย ควรใช้วัสดุปูพื้นสำหรับห้องน้ำโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัย

“ แสงสว่างภายในห้อง ” แสงสว่างภายในห้องเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก สำหรับห้องของผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน ควรติดตั้งหลอดไฟตามจุดต่างๆ เพื่อให้แสงสว่างเพียงพอต่อการมองเห็นของผู้สูงอายุ แต่ต้องไม่มากจนเกินไป เนื่องจากแสงจ้าจนเกินไปจะทำให้สายตาของผู้สูงอายุ ได้รับผลกระทบจากแสงที่มากเกิน แนะนำให้เลือกใช้หลอดไฟที่ให้แสงนวลตา เพื่อเป็นการถนอมสายตาของผู้สูงอายุ

“ สิ่งอำนวยความสะดวก ” ภายในห้องของผู้สูงอายุนั้น ควรมีอุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งราวจับ  อุปกรณ์ช่วยพยุงเดิน เพราะผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย อาจจะต้องลุกเดินเข้าออกห้องน้ำบ่อยครั้ง การมีราวจับหรืออุปกรณ์พยุงเดิน จะช่วยให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวกขึ้น

“ เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม ” ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในปัจจุบันนั้น มีอยู่หลากหลายชนิด แต่สำหรับห้องผู้สูงอายุ สิ่งที่สำคัญเลยนั่นก็คือสัญญาณเรียก ที่ผู้สูงอายุสามารถใช้สื่อสารเราได้ง่าย ช่วยให้คนในบ้านรับรู้ถึงความเคลื่อนไหว หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีการช่วยเหลือได้ทันเวลา โดยอุปกรณ์ที่ควรมี เช่น กระดิ่งไร้สายระบบ Wireless, ระบบแอพพลิเคชั่นต่างๆ  และสายรัดข้อมือที่มีระบบแจ้งเตือนครับ เท่านี้ก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย และสะดวกสบายมากขึ้นครับ

ความคุ้มค่าของการซื้อ “โฮมออฟฟิศ”

หนึ่งในตัวเลือกที่อยู่อาศัยที่มาแรงในยุคนี้ ต้องยกให้ “ โฮมออฟฟิศ ” เป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาสนใจ ในการลงทุนทำธุรกิจมากขึ้น จึงมีการมองหาสำนักงานที่จะตอบโจทย์ในทุกๆ ด้าน ซึ่งหากเป็นสำนักงานในเมืองหรือโซนธุรกิจต่างๆ ก็จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง โฮมออฟฟิศจึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการเริ่มที่จะลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการเช่าหรือซื้อเป็นของตัวเองครับ และอะไรที่เป็นเหตุผลให้คนเหล่านี้เลือกโฮมออฟฟิศ เป็นตัวเลือกแรกๆ วันนี้เรามีคำตอบครับ

“ โฮมออฟฟิศ…บนทำเลคุณภาพ ” สำหรับคนที่อยากจะเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลง หรืออยากเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นของตัวเอง คนโดยส่วนใหญ่จะเลือกเช่าตึกหรือ สำนักงานออฟฟิศที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เนื่องจากความนิยมในการเช่าตึกอาคารสำนักงานนั้น มีตัวอย่างมากมายในปัจจุบัน และค่อนข้างสะดวกสบายมากกว่า ทำให้เกิดพฤติกรรมในการเลือกซื้อที่เหมือนกัน แต่สำหรับคนที่คิดอยากมีพื้นที่ออฟฟิศที่ส่วนตัวมากขึ้น และยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ธุรกิจอื่นๆ ได้สะดวก ก็จะมองหาโฮมออฟฟิศที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ตอบโจทย์ได้ในเรื่องที่ต้องการ อย่างเช่นโครงการ Biz Gallerie นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ ที่ตั้งอยู่ติดถนนนวลจันทร์ เดินทางเข้าออกได้สะดวก บริเวณโดยรอบยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย อยู่ใกล้กับเซ็นทรัลเฟสติวัลอีสต์วิลล์ CDC เดอะวอร์คเกษตรนวมินทร์ รวมไปถึงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ใช้เชื่อมต่อเข้าออกโซนเมืองและโซนอื่นๆ ได้ง่ายดาย เชื่อมต่อเข้าสู่ เอกมัย-พระราม 9 เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นครับ ทั้งหมดนี้ก็บอกได้ว่า ต่อให้จะเป็นโฮมออฟฟิศที่ตั้งอยู่บนทำเลใกล้เมือง ก็มีดีไม่แพ้ออฟฟิศใจกลางเมืองเลยครับ

“ คุ้มค่าทุกพื้นที่ใช้สอย ไม่ว่าจะทำงานหรือพักอาศัย ” และหากจะเทียบกับการเช่าสำนักงานกับการเป็นเจ้าของโฮมออฟฟิศสักแห่งหนึ่ง โฮมออฟฟิศจะตอบโจทย์คุณในเรื่องของการพักอาศัยด้วย โดยสำหรับคนที่ใช้บ้านเป็นทั้งที่ทำงานและที่พักอาศัย โฮมออฟฟิศจะตอบโจทย์เรื่องพื้นที่ใช้สอย ที่ให้มามากกว่าการเช่าพื้นที่สำนักงานอย่างแน่นอน เราสามารถจัดแบ่งโซนสำหรับการนั่งทำงาน และส่วนพักอาศัยออกจากกันได้อย่างชัดเจน เช่น การมีโฮมออฟฟิศ 3-4 ชั้น เราสามารถใช้ชั้น 1-2 เป็นโซนของออฟฟิศได้ พื้นที่ชั้น 3 อาจจะเป็นโซนที่ส่วนตัวมากขึ้น อาจจะจัดให้เป็นห้องทำงานส่วนตัว ส่วนชั้นสุดท้ายสำหรับไว้เป็นพื้นที่พักอาศัย ก็เป็นการแบ่งใช้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้โฮมออฟฟิศยังสามารถรองรับพนักงานได้จำนวนมาก จึงไม่ต้องกังวลเลยว่าพื้นที่ใช้สอยที่ให้มาจะไม่เพียงพอครับ

“ ความเป็นส่วนตัวสูง บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ” ถ้าหากมีโฮมออฟฟิศเป็นของตัวเอง ข้อดีอีกอย่างเลยก็คือความเงียบสงบที่จะได้เพิ่มมาอย่างแน่นอน เนื่องจากโฮมออฟฟิศส่วนใหญ่แล้วจะตั้งอยู่ในบริเวณที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก ค่อนข้างมีความเป็น Private Zone ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ถ้าหากเช่าสำนักงานใจกลางเมืองร่วมกับอีกหลายๆ บริษัท คงหลีกเลี่ยงยากที่จะไม่เจอผู้คนมากมาย แต่ผิดกับโฮมออฟฟิศที่มีคนพักอาศัยน้อยกว่ามาก ความเป็นส่วนตัวก็สูงตามไปด้วย

“ ที่อยู่อาศัยจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับการทำงาน ” การที่เรามีที่อยู่อาศัยดีๆ หรือออฟฟิศที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบไม่แออัด สิ่งนี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับคุณ หรือเพื่อนร่วมงานได้ เนื่องจากปราศจากสิ่งเร้า หรือสิ่งรบกวนจากภายนอก ทำให้มีสมาธิที่จดจ่อกับการทำงาน ส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังเพิ่มแรงบันดาลใจได้ ด้วยการตกแต่งออฟฟิศอย่างมีสไตล์ ทำให้คุณอยู่ภายใต้บรรยากาศที่สร้างสรรค์ ทำให้การใช้ความคิดสร้างสรรค์นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น

BIZ GALLERIA นวลจันทร์ – เกษตรนวมินทร์ | 3 ยูนิตสุดท้าย

รับส่วนลด 2,000,000 ล้าน* | จากราคา 20.23 ล้าน เหลือเพียง 18.23 ล้าน* 

▪️ใกล้ทางด่วนพิเศษฉลองรัชฯ 5 นาที 

▪️ใกล้ถนนเอกมัย 15 นาที 

▪️ใกล้ Central Festival East ville 10 นาที 

?สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-946-1556