Blog

15 นาที จาก… “Biz Galleria” ไปไหนได้บ้าง?

“ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ ” Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนทำเลเกษตร-นวมินทร์  ทำเลติดถนนใหญ่ สะดวกแก่การเดินทางเพื่อมาติดต่อธุรกิจ หรือจะเดินทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ก็สะดวกไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกสู่พื้นที่รอบนอกของกรุงเทพฯ หรือเดินทางเข้าสู่ทำเลธุรกิจใจกลางเมือง ก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน วันนี้เราจะมาดูกันว่า จากโครงการ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ นี้ ภายใน 15 นาที จะสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ใดได้บ้างครับ

โครงการ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ นั้น สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับทำเลต่างๆ ได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่รอบนอก หรือใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งภายในเวลา 15 นาทีจากตัวโครงการนั้น สามารถเดินทางไปยังทำเลที่ขึ้นชื่อเรื่องความครึกครื้น เป็นทำเลแห่งสีสันอย่าง “ทองหล่อ-เอกมัย” ได้ ซึ่งช่วยให้คนที่มีนัดประชุม นัดสังสรรค์นั้นไปถึงที่หมายได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ New CBD อย่าง “รัชดา-พระราม 9” ได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความสะดวกสบายให้กับคนที่ต้องเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ เดินทางไปทำงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย และถ้าหากเป็นช่วงที่จราจรหนาแน่น ก็อาจจะใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิมครับ

“ทองหล่อ-เอกมัย” ทำเลแห่งสีสันและความคึกคักของกรุงเทพฯ 

ในทำเลนี้ต้องบอกว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก เพราะว่าสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กระจายอยู่รอบพื้นที่ทำเลอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร แหล่งเรียนรู้ สถานศึกษา อาคารสำนักงาน รวมไปถึงสถานที่แฮงค์เอ้าท์ระดับ High-End จึงทำให้ทำเลนี้เป็นจุดศูนย์รวมของคนหลายวัย หลากหลายบทบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ “ทองหล่อ-เอกมัย” ถือเป็นทำเลที่โดดเด่นที่สุดบนถนนสุขุมวิท ที่ยังมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นระยะๆ และยังคงไม่หยุดพัฒนาอีกด้วยครับ

“รัชดา-พระราม 9” New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

ย่านที่รวบรวมออฟฟิศสำนักงานเกรด A ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรม คอนโดไฮเอนด์ บ้านเดี่ยว โฮมออฟฟิศ สวนสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย แถมในทำเลนี้ยังมีระบบขนส่งมวลชนอย่าง MRT และ ARL ให้บริการด้วย ซึ่งทำให้การเดินทางเชื่อมต่อจากพื้นที่อื่นเข้าสู่ รัชดา-พระราม 9 สะดวกขึ้นไปอีก 

ซึ่งนับตั้งแต่มีบริการอย่างรถไฟฟ้าเข้าถึง พื้นที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อย่างเช่น อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET), อาคารสำนักงาน AIA Capital Center, Fortune Town, Centralplaza Grand Rama รวมไปถึงไลฟ์สไตล์มอลล์ต่างๆ อีกมากมาย ในอนาคตนั้นทำเลนี้ยังสามารถพัฒนาเติบโตขึ้นไปได้อีก เนื่องจากมีโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกมากมาย เช่น เดอะ แกรนด์ พระราม 9 ที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง และยังมีที่ดินที่กำลังจะออกเสนอให้กับเอกชนได้เข้ามาร่วมลงทุนเหลืออยู่อีกด้วย ทำให้ในปัจจุบันทำเลรัชดา-พระราม 9 ถูกมองเป็นทำเลธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ไปแล้วครับ

อัพเดทความคืบหน้า “ ด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง ”

อัพเดทความคืบหน้า “ ด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง ”

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตั้งเป้าดำเนินการจัดจ้างผู้รับจ้างก่อสร้าง โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ในทุกช่วงสัญญาให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้ทันเวลาก่อสร้างที่ปรับลดลงจาก 39 เดือน ให้เหลือเพียง 34 เดือน เพื่อให้ลดความเสียหายจากปัญหาความล่าช้า และเพื่อจะเร่งช่วยปัญหาการจราจรที่ติดขัดเป็นอย่างมากในชั่วโมงเร่งด่วนและในวันหยุดช่วงเทศกาล.ซึ่งในปัจจุบันได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว 2 สัญญา ได้แก่ช่วงเซ็นทรัลพระราม 2-โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร คืบหน้าประมาณ 20% และช่วงสะพานขึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาด 8 ช่องจราจร และงานทางด่วน ขนาด 6 ช่องจราจร 2 กิโลเมตร โดยคืบหน้าแล้ว 40% ในสัญญาช่วงที่ 5 งานรื้อย้ายด่านเก็บค่าผ่านทางพระราม 3 มีระยะเวลาดำเนินงาน 180 วัน ในการก่อสร้างระบบจัดเก็บค่าผ่านทางที่ด่านพระราม 3 แห่งใหม่ ต้องการให้มีการใช้งานในลักษณะเดียวกันกับที่ด่านปัจจุบันใช้งานอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของซอฟต์แวร์ที่ต้องทำงานร่วมกับระบบปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ล่าสุด กทพ. ปิดดีลสัญญาจ้างก่อสร้าง ในสัญญาช่วงที่ 1 และ 3 เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการทางพิเศษดังกล่าวได้ในช่วงปลายปี 2567 กทพ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตกนี้ จะช่วยให้การจราจรของกรุงเทพมหานคร ที่มุ่งสู่ภาคใต้ของประเทศไทยมีความคล่องตัวขึ้น

ที่มาข่าว : www.prachachat.net

“แอสทิน เอสเตท” บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนให้โรงพยาบาลปัตตานี

เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 บริษัท แอสทิน เอสเตท จำกัด ได้บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลปัตตานี จำนวน 3 เครื่อง เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้กับโรงพยาบาลชุมชนที่ขาดแคลนอย่าง รพ.มายอ, รพ.ไม้แก่น, รพ.ปานาแระ เพื่อช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน

เลียบด่วนรามอินทรา ทำเลขึ้นชื่อเรื่อง “ความอุดมสมบูรณ์”

หากเรานึกถึงทำเลสักทำเลหนึ่ง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมพื้นที่อย่างครบครัน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “เลียบทางด่วนรามอินทรา” โผล่ขึ้นมาในลิสต์ครับ ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาบริเวณนี้ ตลอดแนวเส้นทางจะเห็นได้ว่า มีสถานที่ต่างๆ เรียงรายอยู่ริมสองฝั่งข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ตลาดนัดกลางคืน ตลาดต้นไม้ หรือแม้แต่ร้านอาหาร คาเฟ่ ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มาก แถมยังเป็นทำเลที่เดินทางเชื่อมต่อทำเลอื่นๆ ได้อย่างสะดวกสบายด้วย เพราะติดทางด่วนฉลองรัชและจุดขึ้นลงทางด่วนครับ 

และถ้าเราเป็นคนที่ใช้ชีวิตในทำเลนี้ ไม่ว่าจะอยู่อาศัยหรือทำงาน เราสามารถเลือกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยระยะยาวได้เลยครับ เนื่องจากพื้นที่ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกมากในอนาคต ซึ่งการเลือกที่อยู่อาศัยก็ต้องคำนึงถึงการใช้ชีวิต และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยด้วยครับ

โครงการที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทำเลนี้ ก็คือ Biz Galleria นวลจันทร์-เกษตรนวมินทร์ Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ สัมผัสความสมบูรณ์แบบของ Office Residence ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานการทำงาน และการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว ออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง แบ่งฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน พื้นที่ใช้สอยมากถึง 475 ตร.ม. ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก ทำเลทองของคนทำธุรกิจ

“ Central Festival Eastville ”

ห้างสรรพสินค้าที่รวบรวมไลฟ์สไตล์ และบริการไว้อย่างครบครัน เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ธนาคาร โรงภาพยนตร์ IT Electronic ถือเป็นหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของผู้คนทุกวัย ไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ต่างก็มักจะมารวมตัวกันที่นี่ครับ 

“ Central Festival Eastville ”

คอมมูนิตี้มอลล์ยอดฮิต ที่มีสไตล์การออกแบบโดดเด่นเฉพาะตัว ในสไตล์ Califonia Design ที่เป็นที่นิยมแพร่หลายในอเมริกาครับ โดยที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวบรวมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของย่านนี้เลย เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในที่เดียว ไม่ว่าจะแหล่งช้อปปิ้ง โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส หรืออื่นๆ อีกมากมาย ก็สามารถมาใช้บริการกันได้ที่นี่ครับ

“ CDC : Crystal Design Center ”

ศูนย์รวมงานดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเซีย รวบรวมผลิตภัณฑ์ด้านการตกแต่ง วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ วัสดุตกแต่งพื้นและผนัง ยังมีศูนย์ประชุม ห้องสัมมนา ศูนย์แสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ ห้องจัดเลี้ยง ตลอดจนพื้นที่สำนักงานออฟฟิศ ซีดีซีจึงถูกจัดเป็น วัน-สต๊อป ในการสรรหาและซื้อสินค้าและบริการด้านการตกแต่งที่ครบวงจรครับ หากใครต้องการแต่งบ้าน แต่งออฟฟิศหรือซ่อมแซมพื้นที่ต่างๆ ก็สามารถมาหาวัสดุ อุปกรณ์ได้จากที่นี่เลยครับ

“ The Walk เกษตรนวมินทร์ ”

ไลฟ์สไตล์มอลล์แนวคิดใหม่ Village Walking Street ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว ที่มีคอนเซ็ปต์ให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น สอดคล้องทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว ฉีกแนวด้วยการเป็นสถาปัตยกรรมแบบ แบบ Santa Monica Village ตกแต่งภายในบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบจำลอง Santa Monica Shopping พร้อมให้เราได้ไปเดินเล่น ช้อปปิ้งอย่างแบบสบายใจ โดยภายในมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ สถาบันติวเตอร์ ไอทีสโตร์ ร้านเสริมความงามและสุขภาพ Market Walk สถาบันการเงิน ร้านหนังสือ ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า Index Living Mall เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รวมทุกสิ่งอย่างไว้ได้ครบครัน

“ ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา ”

ตลาดนัดกลางคืนยอดฮิตประจำทำเลนี้ก็ต้องเป็นที่ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ที่นี่มีของขายมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ต้นไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็กๆ ฯลฯ และยังมีโซนที่เป็นของกินที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายอย่างเลยครับ เป็นอีกหนึ่งที่ที่ผู้คนมาเดินจับจ่ายใช้สอย หรือหาของกินกับครอบครัว หรือมากับกลุ่มเพื่อนครับ

“ ตลาดหัวมุม ”

อีกหนึ่งตลาดที่ให้บรรยากาศคล้ายๆ กันก็เป็นตลาดหัวมุมครับ ที่นี่ก็มีของขายเยอะไม่แพ้ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราเลย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับต่างๆ ก็มีให้เลือกกันแบบไม่ซ้ำจำเจ อีกทั้งยังมีร้านอาหารต่างๆ ให้ได้เลือกทานแบบไม่ซ้ำเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ของทอดต่างๆ หรือเดินเยอะๆ คอแห้งหิวน้ำ ก็มีร้านน้ำ ร้านนมต่างๆ รายล้อมอยู่รอบพื้นที่ตลาดเลย

“ Biz Galleria นวลจันทร์ เกษตรนวมินทร์ ”

Office Residence ที่ใหญ่ที่สุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ พร้อมให้สัมผัสความสมบูรณ์แบบของ Office Residence สไตล์ Modern Luxury ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานการทำงาน และการพักผ่อนให้เข้ากันอย่างลงตัว โดยออกแบบพื้นที่ให้สูงโปร่ง มีฟังก์ชั่นที่เป็นสัดส่วน บนพื้นที่ใช้สอยสูงสุดกว่า 475 ตร.ม. บนทำเลติดถนนใหญ่ สะดวกแก่การเดินทางเพื่อมาติดต่อธุรกิจ และมีที่จอดรถไว้รองรับถึง 6 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV และสวนส่วนกลาง

  • Type A

 พื้นที่ใช้สอย 475 ตารางเมตร หน้ากว้าง 8 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา 

  • Type B

พื้นที่ใช้สอย 370 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6 เมตร 2 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 40 ตารางวา

? ใกล้ทางด่วนพิเศษฉลองรัชฯ 5 นาที 

?ใกล้ถนนเอกมัย 15 นาที 

?ใกล้ Central Festival East ville 10 นาที 

หากสนใจสามารถ ลงทะเบียนขอรับข้อมูลได้ที่ https://bit.ly/3gzU8vS 

? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-946-1556 

แผนที่ https://goo.gl/maps/ywUMb8Zwc542 

“Modern Classic” สไตล์การตกแต่งบ้านที่สะท้อนตัวตนอย่างมีระดับ

หนึ่งในสไตล์บ้านที่ถูกหยิบขึ้นมาสรรค์สร้างเป็นที่อยู่อาศัยมากที่สุดในยุคนี้ ก็ต้องมีชื่อของ Modern Classic ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงครับ โดยจุดแข็งของการแต่งบ้านสไตล์นี้ก็คงเป็นการนำความคลาสสิค ของศิลปะหรือสถาปัตยกรรมที่มีอยู่จริงจากสถานที่ต่างๆ มาผสมผสานเข้ากับความเรียบหรู ทำให้บ้านถูกออกแบบมาโมเดิร์นและก็ล้ำยุคอย่างลงตัว ตัดทอนลวดลายต่างๆ ปรับรูปร่างให้ดูเรียบง่ายขึ้น ตามแบบฉบับของการตกแต่งแบบ Modern Classic

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เกิดการสร้างบ้านหรือตกแต่งในสไตล์ Modern Classic นั่นก็คือ “แรงบันดาลใจ” โดยที่อยู่อาศัยสไตล์ Modern Classic นั้น มักจะนำแรงบันดาลใจจากงานศิลปะ หรือสถาปัตยกรรมที่มีอยู่จริงในยุโรป ที่ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ โดยตัดลวดลายที่ดูยุ่งเหยิงออก ผสานเข้ากับความเรียบง่ายของศิลปะสมัยใหม่ ทำให้เกิดเป็นความร่วมสมัยที่ไม่ตกยุค เรียบหรู ดูดี ผ่านความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ออกมาเป็นแบบบ้านสไตล์ Modern Classic ที่ทั้งสวยสง่าและสมบูรณ์แบบ

การตกแต่งที่อยู่อาศัยในสไตล์ Modern Classic ถือเป็นหนึ่งในการถ่ายทอดความงามร่วมสมัยที่ดูไม่ตกยุค พร้อมทั้งบ่งบอกตัวตนและรสนิยมที่เหนือระดับของผู้อยู่อาศัยในทุกองค์ประกอบการตกแต่งครับ โดยเป็นการนำความคลาสสิคของสถาปัตยกรรมยุโรป มาผสมผสานกับความเรียบหรู และไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันอย่างลงตัว โดยการตกแต่งสไตล์นี้จะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก เนื่องจากเป็นการตัดสิ่งที่ทำให้ดูยุ่งเหยิงออกไปจากการออกแบบ คงไว้ด้วยความเรียบง่ายแต่ดูสวยงามและเป็นระเบียบ จากเส้นสายที่ต่อเนื่องกัน เพื่อคงความงามแบบคลาสสิคไว้ในการออกแบบ และช่วยยกระดับภาพลักษณ์ให้บ้านดูสวยสง่าและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นครับ

ในการตกแต่งบ้านสไตล์ Modern Classic นั้น นอกจากเพิ่มความสวยงามและความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับบ้านแล้ว ยังทำให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านนั้นดูหรูหรามากขึ้นด้วยครับ เป็นหนึ่งในการตกแต่งที่สามารถยกระดับภาพลักษณ์ของบ้านให้ดูดีขึ้นได้มากเลยทีเดียว

.

เทรนด์การแต่งบ้านในปัจจุบันนี้มีความหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ โดยมาจากอิทธิพลที่รับมาจากฝั่งตะวันตก อย่างเช่น สถาปัตยกรรม ศิลปะ การใช้ชีวิต การแต่งบ้านสไตล์ “Modern Classic” เป็นหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะด้วยความมีเสน่ห์ในตัว มีความงามของความคลาสสิก แต่ยังคงให้กลิ่นความโมเดิร์นตามยุคสมัยอย่างพอดี ทำให้หลายๆ คนถูกใจการแต่งบ้านสไตล์ Modern Classic ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะทำให้บ้านเรียบหรูแล้ว ยังกำเนิดเป็นลักษณะเด่นด้วยการตกแต่งบางสิ่งที่มีอย่างน่าพอใจ ทำให้การตกแต่งสไตล์ Modern Classic นั้นเป็นการตกแต่งที่ร่วมยุคที่ลงตัวกับยุคสมัยได้อย่างสิ้นเชิงครับ

“แอสทิน เอสเตท” รีแบรนด์ปรับภาพลักษณ์ยูนิฟอร์มใหม่

บริษัท แอสทิน เอสเตท จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่มุ่งเน้นรายละเอียดการดีไซน์ พร้อมกับนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับชีวิตเมือง ปรับภาพลักษณ์ยูนิฟอร์มพนักงานฝ่ายขายทุกโครงการ เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยและคงความคลาสสิค เรียบหรู ภายใต้การรีแบรนด์องค์กรครั้งยิ่งใหญ่ในปี 2564  ทั้งนี้ ชุดยูนิฟอร์มใหม่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังของเมืองไทย ซึ่งพัฒนาแนวคิดและมีแรงบันดาลใจจากอัตลักษณ์ หรือ Brand Identity ของแอสติน เอสเตท ที่เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพท์ที่มุ่งเน้นไปที่ความทันสมัย แต่ยังคงความคลาสสิคและเรียบหรูไว้ บ่งบอกถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี

นายพรชัย กฤษฎาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสทิน เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ดีไซน์ของชุดยูนิฟอร์มใหม่ถูกออกแบบ ภายใต้แนวคิด ‘Timeless Elegance and Stylish’ โดยเริ่มตั้งแต่การใช้โทนสีซิกเนเจอร์ของบริษัท คือ ไลท์แซนด์และดาร์กโอ๊ค ซึ่งนอกจากจะเป็นสีที่บ่งบอกถึงความเรียบหรูแล้ว ยังให้ความรู้สึกดูดีในทุกช่วงเวลาอีกด้วย ส่วนดีไซน์ของชุดจะเน้นไปที่การส่งเสริมบุคลิกภาพของพนักงานที่มีความทันสมัย ความเรียบ แต่หรูและดูดี โดยตัวเสื้อจะเลือกใช้ผ้าที่มีความเงา นุ่มลื่น ทำให้ภาพลักษณ์ออกมามีความเรียบหรู บวกกับการตกแต่งจีบที่เสื้อเพื่อเพิ่มรายละเอียดความสวยงามและมีสไตล์ ขณะที่ทรงแขนสามส่วนจะให้ความคล่องตัวสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ส่วนตัวเสื้อ ถูกออกแบบมาให้สามารถใส่ได้ทั้งกับกางเกงและกระโปรงที่ออกแบบมาคู่กัน โดยกระโปรงจะเน้นไปที่ ความสง่างาม (Elegance) และ มีสไตล์ (Stylish) เป็นทรงสอบผ่าหลัง แต่งด้วยกระดุมทองให้เข้ากันดีกับตัวเสื้อ ด้านกางเกงจะเป็นทรง 5 ส่วน ให้ความกระฉับกระเฉงว่องไวและทำงานได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ภายหลังการประกาศการรีแบรนด์องค์กรใหม่เป็น “แอสทิน เอสเตท” ซึ่งเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปีนี้ บริษัทฯ จึงเปลี่ยนยูนิฟอร์มพนักงานฝ่ายขายเพื่อช่วยสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กรที่มุ่งสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของคนเมือง โดยพนักงานฝ่ายขายโครงการใหม่ เวอริทซ์ (Veritz) สาธุประดิษฐ์ 34 ลักชัวรี่ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกับการรีแบรนด์องค์กร จะเริ่มใช้ยูนิฟอร์มใหม่เป็นโครงการแรกในเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

ส่องทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม3”

หนึ่งในทำเลที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพ มีความเงียบสงบและอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับโซน CBD ของกรุงเทพมหานคร ก็คงหนีไม่พ้นทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม 3” แล้วอะไรที่ทำให้ทำเลนี้น่าสนใจ เหมาะกับการเป็นที่อยู่อาศัยระยะยาว ก็คงเป็นเพราะพื้นที่นี้เชื่อมต่อกับโซนธุรกิจ มีการเดินทางที่สะดวกสบาย การจราจรไม่แออัดมากนัก อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย หากลองเทียบกับพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในอื่นๆ แล้ว ทำเลนี้เป็นทำเลที่สามารถสลัดภาพความวุ่นวายของเมืองออกไปได้มากเลยครับ ส่วนในเรื่องของการเติบโต ต้องบอกว่าทำเลนี้มีการเจริญเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มีที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอด เช่น คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันโอบล้อมพื้นที่อยู่ ทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ รถไฟฟ้า BRT จุดขึ้นลงทางด่วน ทำให้ราคาที่ดินในทำเลสาธุประดิษฐ์-พระราม 3 นี้ เติบโตสูงขึ้นด้วยครับ

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกที่โอบล้อมทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม3” มีกระจายตัวอยู่อย่างมากมาย แต่สถานที่ที่คนจะไปใช้งานบ่อยๆ ก็คงหนีไม้พ้นห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ ทั้งสองถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมสินค้าและบริการต่างๆ ไว้ด้วยกัน เช่น ร้านอาหาร โรงภาพยนต์ ธนาคาร ฟิตเนส และอีกมากมาย ทำให้ผู้คนหมุนเวียนกันเข้า-ออกตลอดทั้งวัน ซึ่งในทำเลนี้ก็มีสถานที่เด่นๆ อยู่มากมายเลยครับ เช่น เซ็นทรัลพระราม 3 เดอะอัพ เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เทอร์มินอล 21 พระราม 3
และอีกสถานที่สำคัญที่ช่วงนี้จะห่างไปไม่ได้เลยก็คือโรงพยาบาลครับ หากป่วยหรือมีอุบัติเหตุฉุกเฉิน ในทำเลนี้ก็มีโรงพยาบาลคอยรองรับหลากหลายที่เลยครับ แถมยังเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงด้วย อย่างเช่น โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

อีกหนึ่งปัจจัยการใช้ชีวิตก็คงเป็นเรื่องของการศึกษา สถานศึกษาจึงถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในการใช้ชีวิต ตั้งแต่วัยเด็กจนเติบโตเป็นวัยรุ่นเลยครับ ซึ่งในย่านสาธุประดิษฐ์-พระราม 3 ก็มีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงอยู่มากมายหลายที่เลย โดยมีรองรับตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถม มัธยมศึกษา จนถึงระดับมหาวิทยาลัยเลยครับ หากมีที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ เด็กๆ ก็ไม่ต้องเดินทางไปไกลบ้านด้วย เพิ่มคามสะดวกสบายให้พ่อแม่ ผู้ปกครองขึ้นอีกเยอะเลย ส่วนสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ก็จะมี โรงเรียน โรงเรียนพระแม่มารีสาธุประดิษฐ์ โรงเรียนสารสาสน์พิทยา โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา คิงส์คอลเลจ นิวสาทรอินเตอร์เนชั่นแนลสคูล นานาชาติโชรส์เบอรี โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เซนโยเซฟคอนแวนต์

ส่วนในเรื่องการเดินทางต้องบอกเลยว่าทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม 3” มีการจราจรที่ค่อนข้างคล่องตัวมาก สามารถเดินทางเข้าออกโซน CBD อย่างสีลม สาทร ได้อย่างง่ายดาย และยังมีบริการสาธารณะอย่าง BTS สายสีลม และ BRT วิ่งรอบทำเลนี้อยู่ครับ ส่วนการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ นั้น ก็สามารถเดินทางได้สะดวกเพราะมีทางด่วนเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ อย่าง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช วงแหวนอุตสาหกรรม ทั้งหมดนี้ ถือว่าทำเล “สาธุประดิษฐ์-พระราม 3” นั้น เป็นทำเลที่เหมาะมากๆ ครับ กับการเลือกที่จะอยู่อาศัยในระยะยาว เพราะในอนาคตคิดว่าทำเลนี้นั้นจะเติบโตไปได้อีกมากเลยครับ

VERITZ สาธุประดิษฐ์ 34 เผยอัตลักษณ์แห่งการใช้ชีวิตที่เหนือกว่า ผ่านทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัยที่โดดเด่น ที่สุดอุดมคติแห่งการพักผ่อนอันเงียบสงบ ใจกลางพระราม 3 สู่บ้านหรูสไตล์ Classical Modernity เอกสิทธิ์เพียง 32 ครอบครัวเริ่ม 20.9 – 26 ล้าน*

หากใครกำลังมองหาบ้านทาวน์โฮม ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทำเลสาธุประดิษฐ์ – พระราม 3 สามารถสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่

“ภัทรา เอสเตท” รีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่สู่ “แอสทิน เอสเตท”

New Normal… New Brand.. ค่ายอสังหาฯ “ภัทรา เอสเตท” 
ปรับตัวครั้งใหญ่เตรียมรีแบรนด์ดิ้งเป็น “แอสทิน เอสเตท” 

New Normal… New Brand.. ค่ายอสังหาฯ “ภัทรา เอสเตท” ปรับตัวครั้งใหญ่เตรียมรีแบรนด์ดิ้งเป็น “แอสทิน เอสเตท” สร้างจุดแข็งเสริมความแข็งแกร่งยุคโควิด.. โดยแม่ทัพ “พรชัย กฤษฏาวรกุล” ซีอีโอคนรุ่นใหม่ทายาทรุ่นที่ 2 ทุ่มเททำงานหนัก นำทัพรีแบรนด์ดิ้ง “ภัทรา เอสเตท” บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครองใจผู้บริโภคมายาวนานกว่า 40 ปี ให้ผงาดในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม ดีไซน์ อสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี พร้อมยกเครื่องใหม่ทั้งองค์กร ให้สมาร์ท เท่ห์ เรียบหรู ดูดี ทำสินค้าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทำเลเมือง ลูกค้าอดใจรอวันเปิดตัวโฉมใหม่ “ภัทรา เอสเตท” ที่จะเปลี่ยนเป็น “แอสทิน เอสเตท” ได้ ในเร็ว ๆ นี้

สินเชื่อบ้านใหม่ ปี 2564

สำหรับคนที่ทำการกู้ซื้อบ้านผ่านธนาคาร อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน คือ ตัวกำหนดการผ่อนชำระค่างวดของการซื้อบ้าน วันนี้ เดอะ พณา รวบรวมข้อมูลเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการพิจารณาเลือกสินเชื่อ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน โดยภาพรวมในเดือน เมษายน 2564 ธนาคารส่วนใหญ่มีอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อบ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกคงที่จากเดือน มีนาคม ปี 2564 มีเพียงสถาบันทางการเงินบางแห่งที่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยของผลิตภัณฑ์สินเชื่อกู้ซื้อบ้าน

หมายเหต :
*อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำสุดของธนาคาร กรณีลูกค้าทั่วไปและไม่ทำประกันชีวิต
**อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน เฉลี่ย 3 ปีแรก คำนวณแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น
.
ที่มา: เว็บไซต์ธนาคาร/Home Buyers รวบรวม (ข้อมูล ณ มกราคม 2564 และเว็ปไซต์ www.ddproperty.com ข้อมูล ณ เมษายน 2564)
เพิ่มเติม คลิ๊ก >> https://bit.ly/3abVcm4
.
THE PANA เพชรเกษม-สาย3 ให้ส่วนลดสูงสุด 1,000,000 บาท* กับบ้านเดี่ยวเนื้อที่กว่า 100 ตร.ว. พร้อมอยู่ 2 หลังสุดท้าย โซนหน้าสวน | เริ่ม 8.7 – 9 ล้าน*
ลงทะเบียนขอข้อมูลเพิ่มเติม คลิก ➤ http://bit.ly/2OLjU1b
ชมรีวิว คลิก ➤ https://bit.ly/2Ij0JfH
LINE ID : @thepana หรือ https://lin.ee/1DsTZlSrZ
?ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอนฯ*
?ฟรี! ปั๊มน้ำ + ถังเก็บน้ำ
?ฟรี! จัดสวนตามมาตราฐาน
—————————————————————–
สอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม เยี่ยมชมโครงการได้ทุกวัน เวลา 09:00-18:00 น.
?โทร.: 061-570-1777
?แผนที่: https://goo.gl/maps/37WLCff6DZo
—-
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

การเตรียมตัวก่อนรับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19

หลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในระลอกที่ 3 นี้ ได้มีการเร่งฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และลดความรุนแรงจากอาการป่วยของเชื้อโควิด 19 แต่ด้วยกระแสข่าวเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนที่ออกมาอาจจะสร้างความกังวลให้เราอยู่ไม่น้อย เราควรทำอย่างไรบ้าง?
ต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร? บทความนี้ มีเฉลยค่ะ


ข้อแนะนําการเตรียมตัวก่อนรับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19
1) สองวันก่อนและหลังการฉีดวัคซีนให้งดออกกำลังกายหนัก หรือยกน้ำหนัก และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
2) วันที่ฉีดควรดื่มนำ้อย่างน้อย 500-1,000 ซีซี และงดชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมถึง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังฉีดวัคซีน
3) หากรับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ ก็ให้รับประทานได้ตามปกติ แต่เมื่อฉีดยาแล้วให้กดตรงตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก 1 นาที
4) การฉีดวัคซีนโควิดควรห่างกับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 1 เดือน หรือฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มก่อน แล้วเว้นระยะ 1 เดือน จึงเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ต่อไป
5) ฉีดแขนข้างที่ไม่ค่อยถนัด และหลังฉีดสองวันงดใช้แขนข้างนั้น อย่าเกร็งยกของหนัก
6) หลังฉีดแล้วเจ้าหน้าที่จะให้รอดูอาการในบริเวณที่ฉีด 30 นาที
7) ถ้ามีไข้ หรือปวดเมื่อยมากทนไม่ไหว สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม
ครั้งละหนึ่งเม็ด ซ้ำได้ถ้าจำเป็น แต่ให้ห่าง 6 ชั่วโมง ห้ามรับประทานยาพวก Brufen, Arcoxia,
Celebrex เด็ดขาด

แจ้งแพทย์ก่อนฉีด
-โรคประจําตัว
-ประวัติการแพ้ยา หรือวัคซีน
-การตั้งครรภ์

สิ่งสําคัญ เพิ่มเติม
-ก่อนออกจากบ้านอย่าลืม
-บัตรประชาชน วันเวลานัดการฉีดวัคซีน
-รักษามาตรการป้องกัน พื้นฐานอย่างเคร่งครัด คือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
-สวมใส่เสื้อแขนสั้นหรือเปิดบริเวณต้นแขนแขนได้ง่าย

ที่มา กรมอนามัย